HoonSmart.com>>ประธาน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้ Digital ID ยกระดับตลาดทุน เสริมความปลอดภัย โปร่งใส แข่งขันได้ในระดับสากล แนะรัฐเป็นเจ้าภาพลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ช่วยพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสใหม่ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 1.58 ล้านล้านบาท
ศ.(พิเศษ) กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวปาฐกถา เรื่อง “เทคโนโลยีและความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมดิจิทัลเพื่อส่งเสริมตลาดทุน” ในงาน “การประชุมสัมมนาทางวิชาการระดับชาติกฎหมายและนโยบายเทคโนโลยีดิจิทัล” กรณีการใช้ Digital ID ในตลาดทุน ตอนหนึ่งว่า
1. ช่วยลดต้นทุนและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพราะการติดตั้งระบบดิจิทัลในตลาดทุน จำเป็นต้องมีผู้ลงทุนเบื้องต้น เช่น ภาครัฐ เพื่อสร้างฐานผู้ใช้และโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) ที่มั่นคง การลงทุนด้านเทคโนโลยีเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งในมิติความปลอดภัยของข้อมูลและการป้องกันการถูกแฮก

รัฐบาลจึงควรเป็นเจ้าภาพในการจัดทำระบบกลางเพื่อให้บริษัทต่าง ๆ เชื่อมต่อได้สะดวก เพราะเอกชนไม่สามารถสร้างระบบเหล่านี้ได้เอง การลงทุนของรัฐถือว่าคุ้มค่าแน่นอน เนื่องจากเมื่อมีข้อมูลแล้วสามารถนำไปใช้สร้างมูลค่าเพิ่มได้ทันที
เช่นที่บางสำนักคาดการณ์ไว้ว่ามีผลต่อมูลค่าเศรษฐกิจตั้งแต่ 3-13% หรือกว่า 1.58 ล้านล้านบาท พร้อมทั้งช่วยประหยัดต้นทุนด้วย
2. สร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับทางกฎหมายให้กับผู้ใช้งาน หากเกิดข้อพิพาทและต้องเข้าสู่กระบวนการศาล ระบบดิจิทัลต้องได้รับการยอมรับเป็นเอกสารทางกฎหมายได้
การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างภาคธุรกิจและภาคราชการจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้การทำธุรกรรมดิจิทัลมีความน่าเชื่อถือและสามารถตรวจสอบได้จริง
3. สร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) จากการที่ไทยเผชิญปัญหาการโจมตีทางไซเบอร์บ่อยครั้ง ระบบของบริษัทจดทะเบียนจึงต้องให้ความสำคัญสูงสุดกับการสร้างระบบ Cyber Security ที่เข้มแข็ง การถูกแฮกเกิดขึ้นแทบทุกวัน แม้จะมีไฟร์วอลล์กั้นไว้ แต่ก็ยังถูกเจาะได้ ดังนั้นต้องมีการทดสอบและปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่ติดตั้งระบบไว้เฉย ๆ เท่านั้น
การปรับตัวขององค์กรในการใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่นการใช้ AI ถือเป็นตัวอย่างสำคัญ ในอนาคตแม้แต่ศาลเองก็ควรมีระบบ AI เพื่อช่วยผู้ศึกษาและเจ้าหน้าที่ในการทำงานให้รวดเร็วขึ้น
4. การใช้ AI ในการวิเคราะห์ตลาดทุน ในการสำรวจและวิเคราะห์บริษัทจดทะเบียน ทั้งด้านผลประกอบการ งบการเงิน และแนวโน้มรายอุตสาหกรรม เพื่อเปิดเผยข้อมูลให้แก่นักลงทุนและบริษัทต่าง ๆ
ลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดกรณีเช่น STARK หรือ JKN อีก หากมีการวิเคราะห์และเตือนนักลงทุนล่วงหน้าจากข้อมูลที่รวบรวมได้ จะช่วยสร้างความโปร่งใสและความมั่นใจในตลาดทุน
ปัจจุบันมีการเริ่มต้นใช้เทคโนโลยีมอนิเตอร์บริษัทจดทะเบียน รวมถึงการวิจัยบริษัทขนาดเล็ก เพื่อเชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีอยู่แล้ว
5. กฎหมายและการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลจำเป็นต้องมีการปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย แม้ประเทศไทยมี พ.ร.บ. อิเล็กทรอนิกส์อยู่แล้ว แต่บางเรื่องยังต้องแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
6. นำมาใช้ในเชิงนโยบาย ตลาดทุนไทยนำ Digital ID และเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ เพื่อช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือ เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความสามารถในการแข่งขันกับตลาดทุนสากลได้อย่างแท้จริง มูลค่าเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

“การสัมมนาครั้งนี้จึงมีความสำคัญ เพราะอาจนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายของพรรคการเมือง เพื่อใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการเพิ่มพูนเศรษฐกิจของประเทศ ถือเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส และสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบดิจิทัลของไทยในอนาคต “ศ.(พิเศษ)กิติพงศ์ กล่าว
