NTF เคาะราคา 6 บาท PE 5.7 เท่า ขาย 4,8-9 ธ.ค. เทรด mai ธ.ค.นี้

HoonSmart.com>>“เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป” (NTF) ขายหุ้น IPO ส่งท้ายปี 68 เปิดจอง 60 ล้านหุ้น 4,8-9 ธ.ค.นี้ ราคา 6 บาท ซีอีโอ” วิชัย ศิระมานะกุล ” เผยยอมขายที่ PE 5.7 เท่า เพราะมองเห็นโอกาสเติบโตทางธุรกิจ ปี 69 บริษัทฯจะเริ่มส่งออกทุเรียนจากเวียดนาม  จากปัจจุบันส่งออกจากไทย 1 หมื่นตัน และส่งออกเนื้อทุเรียนแกะไปสหรัฐ  รายได้-กำไรเติบโตมากยิ่งขึ้น ส่วน บล.เคจีไอ มองราคาขายหุ้น เหมาะสมกับภาวะตลาดหุ้น และศักยภาพการเติบโตสูง  

นายวิชัย ศิระมานะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย)  หรือ NTF กล่าวว่า  NTF  ขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 6 บาท คิดเป็นอัตราราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น (PE) เพียง 5.7 เท่า ไม่รอภาวะตลาดหุ้นดีกว่าปัจจุบัน เพราะมองเห็นโอกาสเติบโตทางธุรกิจ บริษัทฯระดมทุนมาเป็นเงินทุนหมุนเวียน ลงทุนด้านเทคโนโลยี และใช้หนี้ส่วนหนึ่ง  สามารถนำเงินมาซื้อทุเรียนเกรดพรีเมียมจากเวียดนามส่งออกไปจีน จากในช่วง 9 เดือนปีนี้  NTF ส่งออกทุเรียนสดจากไทยไปจีนประมาณ 11,320 ตัน คิดเป็นประมาณ 1.3% ของปริมาณการนำเข้าทุเรียนสดของจีนจากประเทศไทยที่มีปริมาณประมาณ 900,000 ตัน ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในตลาด  และยังวางแผนในการส่งทุเรียนแกะเนื้อไปสหรัฐฯด้วย

“ที่ผ่านมา NTF มีข้อจำกัดด้านเงินทุน ทำให้ยังไม่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ทันตามความต้องการของตลาด หากพิจารณาดู Cash Cycle ของ NTF ที่ประมาณ 41 วัน แสดงว่าสามารถเปลี่ยนเงินทุนหมุนเวียนเป็นยอดขายได้ 9 รอบต่อปี เงินทุนหมุนเวียนจึงเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ NTF เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินในการเพิ่มวงเงินให้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถรองรับความต้องการของตลาดได้ทั้งหมด การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯจึงเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมศักยภาพด้านเงินทุน รวมถึงเปิดทางให้ NTF สามารถนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ยกระดับการผลิต ลดระยะเวลาในการผลิตลงมากกว่า 50% และวางรากฐานเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสร้างความสามารถในการเติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่องในอนาคต” นายวิชัย กล่าว

บริษัทฯมีรายได้หลักมาจากการจำหน่ายผลไม้เกรดพรีเมียม มีกำลังซื้อสูงและค่อนข้างเสถียรในทุกสภาพเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญกับคุณภาพ รูปทรงสวย รสชาติ มากกว่าเรื่องราคา ส่งผลต่อมาร์จิ้น  (กำไรขั้นต้น) ที่ดีกว่า โดยเฉพาะในประเทศจีน สินค้าของ NTF เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมของผู้บริโภค โดยเฉพาะทุเรียนที่ครองอันดับหนึ่ง และการส่งออกของ NTF กว่า 97% เป็นทุเรียนสด รองลงมา คือ มะพร้าว ลำไย และผลไม้อื่นๆ รวมถึงทุเรียนแกะเนื้อ และทุเรียนแช่แข็ง   ทำการตลาดภายใต้แบรนด์ของตัวเอง  ส่งจำหน่ายให้ผู้ค้าส่งผลไม้ในตลาดเจียซิง (Jiaxing Market) ตลาดเจียงหนาน (Jiangnan Fruit Market) และตลาดเจิ้งโจว (Zhengzhou)   กระจายสินค้าของ NTF ได้ทั่วประเทศ และบริษัทฯเริ่มขยายตลาดไปฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา เพื่อขยายฐานลูกค้า ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงลูกค้าจีน และมีแผนที่ขยายไปยังกลุ่มลูกค้าจีนทางตอนบนของประเทศเพิ่มขึ้น รองรับความต้องการของลูกค้าในเขตกรุงปักกิ่ง ที่เป็นศูนย์กลางตลาดค้าผลไม้ของภาคเหนือด้วย

ทุกกระบวนการผลิตอยู่ภายใต้มาตรฐานการทำงาน “NTF Standard” หรือ “2Q2T” (Quality – Quantity – Time – Temperature) ที่สามารถนำใช้ได้ในทุกโรงคัดบรรจุ ที่จัดสรรสินค้าได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ทั้งในเรื่องปริมาณสินค้าและคุณภาพมาตรฐานเดียวกันทุกโรงคัดบรรจุ โดย NTF มีพันธมิตรกว่า 10 โรงคัดบรรจุ พร้อมระบบ QC เข้มงวด ช่วยให้ NTF สามารถรักษามาตรฐานสินค้าในระดับพรีเมียมตามความต้องการของตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ

นางรัชดา เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)   ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายของ NTF  กล่าว่า ราคาขายหุ้นที่กำหนด 6 บาท PE 5.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มบจ.ในตลาดหลักทรัพย์ฯ mai  หมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หรือ AGRO) สะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตและความน่าสนใจของหุ้น NTF ในเชิงมูลค่า ทั้งนี้ NTF บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า  40% ของกำไรสุทธิ โดยจะเปิดจองซื้อ IPO ในวันที่ 4   และ 8-9  ธ.ค. 2568 คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในเดือนธ.ค.นี้

“NTF มีการเติบโตสูงต่อเนื่อง  ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2568  มีรายได้จากการขาย  2,107 ล้านบาท กำไรสุทธิ 203 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 9.6% ล้านบาท  สูงกว่าปี 2565-2567 ที่มีรายได้จากการขายเท่ากับ 347 ล้านบาท 563 ล้านบาท และ 1,115 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิเท่ากับ 8 ล้านบาท 23 ล้านบาท และ 64 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ในปี 2568 ทั้งปี NTF มีเป้าหมายยอดขายรวมไว้ที่ประมาณ 2,900 ล้านบาท จากคำสั่งซื้อล่วงหน้าตามความต้องการผลไม้ไทยที่เพิ่มขึ้นในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน ตลาดค้าขายผลไม้ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก

NTF มีกลยุทธ์ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ตั้งแต่การคัดเลือกแหล่งวัตถุดิบคุณภาพ การยกระดับระบบคัดเกรด–บรรจุด้วยเทคโนโลยี รวมถึงการขยายตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพสูง โดยมุ่งเน้นเจาะตลาดพรีเมียมมูลค่าสูงและความต้องการสม่ำเสมอ ทั้งยังบริหารความเสี่ยง

ด้านอัตราแลกเปลี่ยนด้วยสัญญา FX Forward ครอบคลุม 100% ซึ่งจะช่วยเสริมเสถียรภาพผลประกอบการในระยะยาว รวมทั้ง NTF ไม่มีการถือครองสินค้าคงคลัง ลดความเสี่ยงราคาผลไม้ผันผวน พร้อมนำระบบ Automation มาใช้ในกระบวนการคัดและบรรจุ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความแม่นยำ รองรับคำสั่งซื้อที่เติบโต ด้วยโมเดลธุรกิจที่บริหารแบบครบวงจร ทำให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ส่งมอบสินค้าได้ตรงเวลา รักษามาตรฐานสินค้าพรีเมี่ยมได้ตามที่ตลาดต้องการอย่างเข้มงวด ส่วนการลงทุนในเทคโนโลยีอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดความสูญเสียสามารถ ยกระดับและควบคุมคุณภาพให้สม่ำเสมอ และรองรับความต้องการส่งออกที่เติบโตต่อเนื่อง ทั้งจากตลาดประเทศจีนและตลาดพรีเมียมทั่วโลก ตอกย้ำเป้าหมายการเติบโตอย่างมั่นคง

 
 
อ่านข่าว

NTF กำไรยังกระโดดอีกไกล ขาย IPO ธ.ค.นี้ เพิ่มศักยภาพส่งออกทุเรียนพรีเมี่ยม

 
 
 
 
 

———————————————————————————————————————————————————–