ธอส. งัด 7 มาตรการ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้

HoonSmart.com >> ธอส. งัด 7 มาตรการพักชำระหนี้ – ลดเงินงวด – ลดดอกเบี้ย –เคลมสินไหมเร่งด่วน ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ 

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ห่วงใยลูกค้าและประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่และพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย เร่งออก 7 มาตรการพักชำระหนี้ – ลดเงินงวด – ลดดอกเบี้ย –เคลมสินไหมเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือและเยียวยา
บรรเทาความเดือดร้อนผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ดังกล่าว

ยื่นความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัย ที่อำเภอหาดใหญ่ และพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน การดำเนินชีวิต และการประกอบอาชีพของลูกค้าและประชาชนเป็นอย่างมาก

ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน”
ได้จัดเตรียมมาตรการให้ลูกค้าสามารถพักชำระหนี้ ลดเงินงวด ลดดอกเบี้ย
และเคลมสินไหมเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ที่ได้รับผลลกระทบในพื้นที่ดังกล่าว ผ่าน “มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปี 2568” โดยมีรายละเอียด ดังนี้

มาตรการที่ 1 : สำหรับลูกค้าปัจจุบัน

ลดเงินงวดและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นระยะเวลา 1 ปี  พักชำระหนี้นาน 3 เดือน พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 0% ต่อปี 3 เดือนแรก

เดือนที่ 4 – 12 คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2.00% ต่อปี พร้อมลดเงินงวดลง 50% ของเงินงวดที่ชำระในปัจจุบัน

เมื่อครบระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ ลูกค้าสามารถกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เดิมต่อไปและลูกค้าที่ต้องการกู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยสามารถเข้าร่วมโครงการสินเชื่อซ่อม – แต่ง และสินเชื่อซ่อม- แต่ง Plus วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย

ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 5 ปี โดยวงเงิน 1 แสนบาทแรก อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีเพียง 1% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี ในวงเงิน 200,000 บาทถัดมา
โดยไม่ต้องจดทะเบียนการจำนองเพิ่มที่สำนักงานที่ดิน

มาตรการที่ 2 : สำหรับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่

กู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซม หรือปลูกสร้างทดแทนหลังเดิม วงเงินกู้สูงสุดต่อราย ต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1 – 3 เท่ากับ 0% ต่อปี พร้อมปลอดชำระเงินงวด,อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 4 – 24 เท่ากับ 2.00% ต่อปี, อัตราดอกเบี้ยปีที่ 3 เท่ากับ
MRR-3.30% ต่อปี (2.945% ต่อปี), ปีที่ 4 เท่ากับ MRR-2.40% ต่อปี (3.845%
ต่อปี) และปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญา

กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี, ลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ
ธอส. ปัจจุบัน เท่ากับ 6.245% ต่อปี)

ระยะเวลาการกู้ 40 ปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,100 บาทต่อเดือนเท่านั้น ฟรีค่าธรรมเนียมประเมิน ราคาหลักประกัน (1,900 – 2,800 บาท)
และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองไม่เกิน 1% ของวงเงินจำนอง เพื่อช่วย
ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน

มาตรการที่ 3 : สำหรับลูกค้าสถานะ NPL หลักประกันได้รับความเสียหาย
ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และไม่ต้องชำระเงินงวด

จากนั้นเดือนที่ 7-18 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน และเมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ให้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

มาตรการที่ 4 : สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้
ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และผ่อนชำระเงินงวดเพียง 1,000 บาท (ตัดเงินต้นทั้งหมด) จากนั้น
เดือนที่ 7-12 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน บวกอีก 100 บาท และเมื่อผ่อนชำระครบระยะเวลาประนอมหนี้
ให้ลูกค้ากลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

มาตรการที่ 5 : สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL
ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร

ให้ผ่อนชำระ โดยใช้ อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ตลอดระยะเวลาที่คงเหลือ (พิจารณาเป็นรายกรณี)

มาตรการที่ 6 : สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL
หากที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลัง และไม่สามารถซ่อมแซมได้ ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคาร และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่คงเหลือเท่านั้น (พิจารณาเป็นรายกรณี)

มาตรการที่ 7 : พิจารณาสินไหมเร่งด่วน (Fast Track)

สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติกับบริษัทประกันภัยที่ธนาคารจัดให้ พิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าที่ประสบภัยทุกรายอย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ

โดยผู้เอาประกันสามารถแจ้งความเสียหายโดยใช้ภาพถ่ายจ่ายตามความเสียหายจริงไม่เกิน 20,000 บาท และสำหรับลูกค้าที่มีกรมธรรม์เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เพิ่มความคุ้มครอง ภัยธรรมชาติตามความเสียหายจริงอีกไม่เกิน 30,000 บาท ต่อปี (รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นไปตามกรมธรรม์)

นอกจากนี้ ธอส. ร่วมกับกรมธนารักษ์ และชมรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร
กองทัพอากาศ เตรียมลงพื้นที่ส่งมอบ ถุงยังชีพ และอาหารพร้อมทานให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ และพื้นที่ภาคใต้ เพื่อบรรเทา ความเดือดร้อนในเบื้องต้นลูกค้าและประชาชน

ทั้งนี้ ลูกค้าที่ประสงค์ขอรับบริการตามมาตรการดังกล่าวสามารถติดต่อ ได้ที่สาขา ธอส. ตั้งแต่บัดนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ติดตามข่าวสารของธนาคาร ได้ที่ GH Bank Social Media และ www.ghbank.co.th