HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ ดาวโจนส์ร่วง 557 จุด แรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอีกครั้ง รอเปิดเผยข้อมูลสัปดาห์นี้ จับตาผลประกอบการ Nvidia รายงานการจ้างงานเดือนก.ย. ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” WTI ปรับตัวลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ นักลงทุนเลี่ยงลงทุนก่อนการรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 17พฤศจิกายน 2568 ปิดที่ 46,590.24 จุด ลดลง 557.24 จุด หรือ -1.18% จากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอีกครั้ง ขณะที่รอการเปิดเผยข้อมูลสำคัญในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลประกอบการของ Nvidia และรายงานการจ้างงานเดือนกันยายน
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,672.41 จุด ลดลง 61.70 จุด, -0.92%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,708.07 จุด ลดลง 192.51 จุด, -0.84%
นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นก่อนสองเหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่การประกาศผลประกอบการของ Nvidia ดาวเด่นแห่งวงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในวันพุธ และในวันพฤหัสบดีจะมีรายงานการจ้างงานประจำเดือนกันยายน ซึ่งล่าช้ามานานเนื่องจากรัฐบาลปิดทำการ
หุ้น Nvidia ร่วงลงเกือบ 2% ก่อนผลประกอบการไตรมาสที่สามของบริษัท ซึ่งกำหนดไว้หลังตลาดเปิดทำการในวันพุธ
หุ้นผู้ผลิตชิปและบริษัทอื่นๆ ในธุรกิจ AI รวมทั้ง Salesforce และ Apple เป็นปัจจัยกดดันตลาดล่าสุด เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าที่สูงมาก หุ้น Blue Owl Capital บริษัทสินเชื่อเอกชน ร่วงลงเกือบ 6% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการให้สินเชื่อจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการสร้างศูนย์ข้อมูล AI
นอกจาก Nvidia แล้วบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ ก็ประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดย Walmart จะรายงานผลก่อนตลาดเปิดในวันพฤหัสบดี ซึ่งอาจให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภค
รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักกลยุทธ์จาก Baird investment กล่าวว่า หุ้นกลุ่มบริโภคอุปโภค โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่มีข้อมูลตลาดแรงงานบางส่วน จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมุมมองของตลาดเกี่ยวกับช่วงวันหยุดที่ใกล้เข้ามา
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมประจำเดือนกันยายนที่จะเผยแพร่ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขแรกที่เปิดเผยหลังจากไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจเนื่องจากภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ
เมย์ฟิลด์กล่าวว่ารายงานฉบับนี้รวมถึงรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ประจำเดือนตุลาคมที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ แม้จะค่อนข้างจืดชืด อาจช่วยให้มีความชัดเจนขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาด ยังคงขาดข้อมูลในช่วงสองสามสัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่รัฐบาลกำลังกลับมาเดินหน้า
ตลาดได้ลดความคาดหวังที่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีในเดือนหน้า โดยเครื่องมือ FedWatch ของ CMEบ่งชี้ว่านักลงทุนมองว่ามีโอกาสประมาณ 45% ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งลดลงอย่างมากจากความน่าจะเป็นมากกว่า 90% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้ว
สำหรับหุ้นรายตัวอื่น Alphabet พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากที่ Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett เปิดเผยว่าได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทแม่ของ Google และ YouTube มูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ ขณที่ Berkshire Hathaway ได้ปรับลดการถือครองหุ้น Apple ในสัดส่วน 15% หรือราว 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์ หุ้น Apple ลดลง 1.8%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนครั้งใหญ่ก่อนการรายงานการจ้างงานของสหรัฐที่รอคอยกันมานาน ซึ่งอาจให้ความชัดเจนเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ และหุ้นเทคโนโลยีอาจมีราคาสูงเกินไป ได้ก่อให้เกิดการเทขายหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหนักที่สุดในรอบกว่าหนึ่งเดือนเมื่อวันศุกร์
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 571.68 จุด ลดลง 3.13 จุด, -0.54%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,675.43 จุด ลดลง 22.94 จุด, -0.24%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,119.02 จุด ลดลง 51.07 จุด, -0.63%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,590.52 จุด ลดลง 286.03 จุด, -1.20%
ความต้องการเสี่ยงในสัปดาห์นี้น่าจะถูกทดสอบโดยรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ เดือนกันยายน ซึ่งจะประกาศในวันพฤหัสบดี และรายงานผลประกอบการของ Nvidia ในวันพุธ
สำหรับประเด็นอื่น ๆ ได้แก่ข้อพิพาทที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างจีนกับญี่ปุ่นในเรื่องเกี่ยวกับไต้หวัน ซึ่งส่งผลให้จีนเตือนพลเมืองเกี่ยวกับการเดินทางไปยังญี่ปุ่น
หุ้นสินค้าหรูของยุโรป เช่น Burberry ของสหราชอาณาจักร และ LVMH ของฝรั่งเศส ร่วงลง 6.6% และ 2% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มการเงิน ทั้งธนาคารและบริษัทประกันภัย ก็ส่งผลกระทบต่อดัชนี STOXX เช่นกัน ส่วนกลุ่มค้าปลีกลดลง 2.3% โดย JD Sports ลดลง 4.7%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 18 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 59.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 64.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–
