SMO กวาดกำไร 652 ลบ. ใจถึง ! ปันผล 0.15 บาท

HoonSmart.com >> SMO ผลงาน 9 เดือน กวาดกำไร 652 ลบ. โตแรง 113% อัดปันผลระหว่างกาล 0.15 บาท ยีลด์ 3.78% นำเงินระดมทุน  960 ลบ. โรงงานใหม่นครศรี ฯ  อัพกำลังผลิต 390 ตันปาล์มสด/ชั่วโมง รับการเติบโตตามนัด

นายกิตติพงษ์ พวงมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กลุ่มสมอทอง  (SMO) กล่าวว่า ผลประกอบการ 9 เดือน/ 2568  มีรายได้รวม 7,180.58 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 2,365.81 ล้านบาท หรือ  49.14%  เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 4,814.77 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 652.07 ล้านบาท   เพิ่มขึ้น 346.50 ล้านบาท หรือ  113.39% YoY เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 67 ที่มีกำไรสุทธิ 305.57 ล้านบาท

รายได้ที่ปรับตัวเพิ่มสูง มีปัจจัยจาก การขายเมล็ดในปาล์มอบแห้ง และผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง รวมถึงรายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากการที่ทุกโรงงานของกลุ่มบริษัทสามารถเดินได้เต็มประสิทธิภาพ ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โรงงาน AL อยู่ระหว่างการปรับปรุงเครื่องจักรโดยเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนกันยายน 2567

ขณะที่รายได้จากการขายน้ำมันปาล์มดิบลดลง เนื่องจากช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ปี 2568 บริษัทมีการรวบรวมน้ำมันปาล์มดิบเพื่อรอส่งมอบตามสัญญาขายน้ำมันปาล์มดิบต่างประเทศในต้นไตรมาสที่ 4 ปี 2568 จำนวน 32,000 ตัน ซึ่งได้ส่งมอบสินค้าในเดือนตุลาคม 2568 และรับรู้รายได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

บริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 0.15 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.78% ณ ราคาหุ้นปัจจุบัน 3.96 บาท  โดยจ่ายจากกำไรสุทธิ ส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI XD  วันที่ 25 พ.ย. 2568 และจ่ายปันผล 11 ธ.ค. 2568

คณะกรรมการบริษัท ฯ อนุมัติ ลงทุนซื้อที่ดิน 120 ลบ. ตำบลช้างซ้าย อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มดิบ 840 ลบ.ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิตประมาณ 75 ตันผลปาล์มสดต่อชั่วโมง มูลค่าลงทุนรวมสูงสุดไม่เกิน 960 ล้านบาท โดยใช้เงินจากการระดมทุนขาย IPO จำนวน 320-370 ลบ. และกู้ยืมสถาบันการเงิน 550-600 ลบ.

ก่อสร้าง และติดตั้งเครื่องจักร ใช้ระยะเวลารวมทั้งสิ้นประมาณ 18-20 เดือน  คาดก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มเปิดดำเนินการผลิตได้ประมาณไตรมาส 2 ปี 2571 ส่งผลให้ภายหลังโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มดิบข้างต้นก่อสร้างแล้วเสร็จ กำลังการผลิตของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 315 ตันผลปาล์มสดต่อชั่วโมง นอกจากนี้กำลังการผลิตข้างต้นยังไม่นับรวมกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นของโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มดิบ สาขาพนม ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักร และจะสามารถเริ่มเดินเครื่องจักรได้ภายในเดือนเมษายน 2569 ดังนั้นหากนับรวมการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตของโรงงานสาขาพนม จะส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบของบริษัทเพิ่มขึ้นเท่ากับ 390 ตันผลปาล์มสดต่อชั่วโมง

โรงงานใหม่นี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีการเติบโตของปริมาณการเพาะปลูกปาล์มน้ำมันสูง และมีการแข่งขันด้านการรับซื้อวัตถุดิบไม่รุนแรงเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่น

การเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบของกลุ่มบริษัท  ส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีสินค้าขายมากขึ้น  สอดคล้องกับแนวโน้มภาวะอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกปัจจุบัน ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง