HoonSmart.com>>หุ้นในกลุ่มแบงก์-ไฟแนนซ์ขยับขึ้น-เทรดคึกคัก นำโดย KTB-TISCO ส่วนไฟแนนซ์นำโดย SAWAD-KTC-MTC ได้ประโยชน์จากมาตรการครม.เศรษฐกิจเห็นชอบมาตรการแก้หนี้ จัดตั้ง AMC ซื้อหนี้เสีย (NPLs) จากประชาชนที่มีหนี้เสียไม่เกิน 1 แสนบาท/ราย เฟสแรกเป้าซื้อหนี้ 2.36 ล้านบัญชี ด้าน SAWAD มีลุ้นเข้า SET50 ในรอบครึ่งแรกปี 69 ช่วยหนุนอีกปัจจัย
เมื่อเวลา 10.39 น.หุ้นในกลุ่มธนาคารขยับขึ้นยกแผง นำโดยหุ้น KTB บวก 1.83% มาที่ 27.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 712.43 ล้านบาท
หุ้น TISCO บวก 1.40% มาที่ 109 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 201.66 ล้านบาท
ส่วนหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์เทรดคึกคักไม่แพ้กัน นำโดยหุ้น SAWAD บวก 2.63% มาที่ 29.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 118.36 ล้านบาท
หุ้น KTC บวก 2.63% มาที่ 29.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 93.20 ล้านบาท
หุ้น MTC บวก 1.24% มาที่ 40.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 76.25 ล้านบาท
บล.กรุงศรี ระบุว่า ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจเห็นชอบมาตรการแก้หนี้ให้จัดตั้ง AMC ซื้อหนี้เสีย (NPLs) จากประชาชนที่มีหนี้เสียไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย เฟสแรกตั้งเป้าซื้อหนี้ 2.36 ล้านบัญชี คิดเป็นภาระหนี้ประมาณ 62,400 ล้านบาท มองกระแสบวกหุ้นธนาคาร และการเงิน
ฝ่ายวิจัยได้แบ่งผลบวกจากโครงการข้างต้นเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) บริษัท AMC ที่จะได้รับการขายและโอนหนี้ไปบริหารคือ BAM และ SAM (นอกตลาด) โดย BAM ถือหุ้น 50% ร่วมกับธ.ออมสินในบริษัทสินทรัพย์อารีย์ (Ari-AMC) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ครม.เศรษฐกิจเห็นชอบให้รับโอนหนี้จากมาตรการนี้, 2) ประชาชนและระบบเศรษฐกิจรวม เนื่องจากมาตรการนี้จะมีเงื่อนไขที่ผ่อนปรนและเหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ ทำให้ลูกหนี้สามารถผ่อนชำระได้จนเป็นลูกหนี้ที่มีประวัติปกติ ทำให้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ในอนาคตช่วยเพิ่มปริมาณหมุนเวียนในระบบ เป็นบวกกับกลุ่มไฟแนนซ์ และค้าปลีกที่มีฐานลูกค้าในระบบรากหญ้า อาทิ MTC และ CPALL
นอกจากนี้ SAWAD มีโอกาสที่จะเข้า SET50 ในรอบครึ่งแรกปี 2569
พร้อมแนะนำหุ้น MTC เป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการล่าสุดที่รัฐบาลออกมาตรการครม. เศรษฐกิจเห็นชอบมาตรการแก้หนี้ให้จัดตั้ง AMC ซื้อหนี้เสีย (NPLs) จากประชาชนที่มีหนี้เสียไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย ผสานกับทิศทางดอกเบี้ยที่เป็นขาลง มองบวกต่อธุรกิจ Research Report
นอกจากนี้ คาดรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 ที่1,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +14% y-y และ +3% q-q เพราะการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย(NII) +9% y-y และ+4% q-q จากสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น+12%y-y และ+2%q-q หรือคิดเป็น+9% YTD จากกลุ่มสินเชื่อที่มีหลักประกันเป็นหลักและการขยายสาขาที่ 8,550 สาขาเพิ่มขึ้น+6% y-y และ+1% q-q ด้านค่าใช้จ่ายสำรอง(ECL) ลดลง-8% y-yเพราะการชำระหนี้ของลูกหนี้ดีขึ้น ด้านคุณภาพสินทรัพย์บริหารได้ดีมาก NPL Ratio คาดที่ 2.65% ใกล้กับไตรมาส 2/2568 ที่ 2.62%

