บล.ฟินันเซีย ไซรัสคาด SET เช้านี้ผันผวน DELTA ต่อเวลา T1

HoonSmart.com>>บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดแนวโน้มดัชนี SET มีโอกาสปรับตัวขึ้นลุ้นยืนเหนือ 1,310 จุด แต่ช่วงเช้าดัชนีอาจเผชิญความผันผวน หลัง DELTA ถูกขยายเวลาต่อมาตรการ T1 ด้านดีลการค้าสหรัฐฯ-จีนผ่อนคลายขึ้น ตลาดยังจับตาประชุมเอเปคต่อเนื่อง หุ้นเด่น SCC กำไรปกติที่ต่ำที่สุดของปีนี้ผ่านไปแล้ว

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส คาดดัชนี SET ยังมีโอกาสเผชิญความผันผวนในช่วงเช้า โดยมีประเด็น DELTA ที่ตลาดฯ ขยาย T1 ต่อถึง 20 พ.ย. 68 อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น DELTA ที่ปรับลงวานนี้เชื่อว่าซึมซับประเด็นนี้ไปบ้างแล้วเมื่อวาน

ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศดูผ่อนคลายขึ้น จากความพัฒนาการเชิงบวกเรื่องภาษีการค้าระหว่างจีน-สหรัฐเมื่อวานนี้ โดยสหรัฐฯ จะลดภาษีที่เชื่อมโยงกับเฟนทานิล 10% มีผลทันที ทำให้อัตราภาษีโดยรวมสาหรับสินค้าจีนลดลงเหลือราว 47% จากเดิม 57% เพื่อแลกกับการที่จีนจะกลับมาซื้อถั่วเหลืองของสหรัฐฯ รวมถึงการส่งออกแร่หายาก และกวาดล้างการค้าเฟนทานิลที่ผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังจับตาประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐในประะชุมเอเปคที่ยังดำเนินต่อ

ด้านตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 47,522.12 จุด ลดลง 109.88 จุด หรือ -0.23% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,822.34 จุด ลดลง 68.25 จุด หรือ -0.99% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,581.14 จุด ลดลง 377.33 จุด หรือ -1.57% โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้น Meta และ Microsoft ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) นอกจากนี้ การแสดงความเห็นของเจอโรมพาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ทาให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนธ.ค.

“เรามอง SET วันนี้มีโอกาสปรับขึ้นได้ โดยเฉพาะหากยืนเหนือระดับ 1,310 +/- จุด และหากระดับปิดสูงกว่า 1,325 จุด จะทำให้ภาพทางเทคนิคมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในภาพที่ระยะยาวกว่า และคาดว่ากรอบการแกว่งตัววันนี้จะอยู่ที่ 1,300-1,330 จุด”

หุ้นเด่นหุ้นเด่นวันนี้ : SCC

– แนะนำ “ซื้อเก็งกาไร” ราคาเป้าหมาย 220 บาท

– กาไรปกติที่ต่ำที่สุดของปีนี้ผ่านไปแล้วในไตรมาส 3/68 แม้ว่าส่วนต่างราคาสินค้าปิโตรเคมีในเดือนต.ค. ยังถูกดดันจากต้นทุนแนฟทาที่อยู่ในระดับสูง แต่ธุรกิจอื่นกาไรเดินหน้าเข้าสู่ High
season

– แม้ว่าธุรกิจปิโตรเคมียังอยู่ในภาวะ Oversupply ต่อไปอีก 1 ปี แต่ SCC อยู่รอดได้จากการควบคุมต้นทุนและรายจ่ายเข้มข้น เพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม เน้นขายผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์
จิ้นสูง ลดภาระหนี้ รักษาสภาพคล่อง เราคาด EBITDA ขยายตัวปีละ 8-12% ในระยะ 3 ปีข้างหน้า

– แนวรับ 208//200 บาท แนวต้าน 220//230 บาท
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–