HoonSmart.com>>”บลจ.กรุงไทย” (KTAM) โชว์ผลงานบริหารมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (AUM) โตทะลุ 1 ล้านล้านบาท แตะเป้าปีนี้ เติบโตกว่า 5-6 หมื่นล้านบาท แรงหนุนจากธุรกิจกองทุนรวม เงินไหลเข้า “กองทุนตราสารหนี้โตแรง รับเทรนด์ดอกเบี้ยขาลง-กองทุนหุ้นต่างประเทศผลงานดี” โค้งสุดท้ายเตรียมออก RMF หุ้นเทค “กองทุนมันนี่มาร์เก็ต” สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มทางเลือกลงทุน
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า ภาพรวมมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ของบริษัทเติบโตแตะระดับ 1 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ 26 ก.ย.2568 มีมูลค่า 1,007,000 ล้านบาท) แตะเป้าหมายที่ตั้งไว้สิ้นปีนี้ที่ 1 ล้านล้านบาท โดยเติบโตขึ้นประมาณ 5-6 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปีที่ผ่านมามีมูลค่า 9.4 แสนล้านบาท ซึ่งหลักๆ เติบโตจากธุรกิจกองทุนรวม โดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้และการเติบโตจากมูลค่าหุ้นของกองทุนต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงผลตอบแทนของกองทุนวายุภักษ์ที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บลจ.กรุงไทย นับเป็นรายที่ 4 ในอุตสาหกรรมกองทุนไทย ที่มีมูลค่า AUM เติบโตแตะ 1 ล้านล้านบาทและครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่อันดับ 4 จากอันดับแรก ได้แก่ บลจ.ไทยพาณิชย์ มูลค่า 1.8 ล้านล้านบาท อันดับสอง บลจ.กสิกรไทย มูลค่า 1.7 ล้านล้านบาทและอันดับสาม บลจ.เอไอเอ มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท
สำหรับภาพรวมช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.) ธุรกิจกองทุนรวมของบริษัทเติบโต 7.7% จากสิ้นปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรมเติบโต 7.2% หากรวมทั้ง 3 ธุรกิจ (กองทุนรวม, กองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) AUM ของบริษัทเติบโต 4.4% จากสิ้นปีที่ผ่านมา ในขณะที่อุตสาหกรรมเติบโต 5.5%
“ปีนี้ดีทั้งตราสารหนี้และตลาดหุ้น ยกเว้นหุ้นไทย โดยกองทุนตราสารหนี้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนรับแนวโน้มดอกเบี้ยที่ลดลงและปีหน้าคาดว่าตราสารหนี้ยังเป็นโอกาสในการลงทุนอยู่ ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศในปีนี้ดีแทบทุกตลาด ซึ่งกองทุนหุ้นต่างประเทศที่ทำผลงานโดดเด่น ผลตอบแทนดีดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นมาก ทั้งกองทุนหุ้นเทค กองทุนหุ้นสหรัฐและกองทุนหุ้นจีน รวมถึงกองทุน KT-PRECIOUS (กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ โกลด์ แอนด์ เพรเชียส เอคควิตี้) ลงทุนในหุ้นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับทองคำ แร่หายาก ซึ่งสร้างผลตอบแทนในปีนี้สูงถึง 112% “นางชวินดา กล่าว
นางชวินดา กล่าวว่า แผนงานในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ บริษัทเตรียมออกกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี รวมทั้งกองทุนมันนี่ มาร์เก็ต สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ (USD) ที่อยู่ระหว่างวางระบบคาดว่าจะเปิดตัวได้ช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้หรืออย่างช้าในเดือนม.ค.69 เพื่อตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนเป็นสกุลเงิน USD
ส่วนแผนออกกองทุนในปีหน้า นอกจากกองทุนมันนี่มาร์เก็ต สกุลเงิน USD แล้วมีแผนออกสตรัคเจอร์โปรดักส์ เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนให้เพิ่มขึ้นทั้งลงทุนในไทยและต่างประเทศ โดยมีการวางโรดแมปซึ่งเราทำงานร่วมกับธนาคารกรุงไทยและเอเจ้นท์
“จากปีนี้ออกกองทุนใหม่ 10 กองทุน และหนึ่งในนั้นมีกองทุนมันนี่ มาร์เก็ต ในชื่อกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารตลาดเงินภาครัฐ (KTSV-KTB) ที่เป็นกองทุนที่ขายแล้วได้รับเงินในวันเดียว (T+1)ผ่านแอป Krungthai NEXT ธนาคารกรุงไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนหลังเปิดตัวเดือนกว่า ณ เดือนก.ย.มีมูลค่าแตะหมื่นล้านบาท ซึ่งให้ผลตอบแทน 1% กว่า สูงกว่าฝากออมทรัพย์อยู่ที่ 0.25% ซึ่งหากนักลงทุนต้องการใช้บริหารสภาพคล่องถือว่าตอบโจทย์ได้”นางชวินดา กล่าว
นางชวินดา ยังกล่าวในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ว่า สมาคมพร้อมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ยังมีแผนเข้าหารือรมว.คลัง เพื่อขอต่ออายุมาตรการภาษีกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) อย่างไรก็ตามภาพรวมการลงทุนในกองทุนภาษีในโค้งสุดท้าของปีนี้น่าจะสดใสจากตลาดที่ดูดีขึ้น
อ่านข่าว
KTAM มองเป้าหุ้นไทยปีหน้า 1,450 จุด ชูกองทุนเด่นจัดพอร์ตรับมือตลาดผันผวน