อสังหาฯ บูม ! หุ้นโซนต่ำ-ปันผลสูง แจ้งเกิดครึ่งปีหลัง ศก.ฟื้น-ดบ.ขาลงหนุน

HoonSmart.com>>หุ้นในกลุ่มอสังหาฯได้เวลาบูม ! ราคาหุ้นอยู่ในโซนต่ำทุกตัว เทรด P/E ต่ำกว่า 10 เท่า ทั้งที่ให้ปันผลสูงถึง 7-8% โบรกฯต่างมองผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 2 ได้เวลาแจ้งเกิดในครึ่งปีหลังแล้ว จากเริ่มเห็นสัญญาณการโอนดีขึ้น-เศรษฐกิจมีแววฟื้น-ทิศทางดอกเบี้ยขาลง อีกทั้งธปท.ผ่อนปรนเกณฑ์ LTV ยังเกื้อหนุนธุรกิจ พร้อมเชียร์หุ้นใหญ่ AP, SPALI ตัวเด่นของกลุ่ม

ราคาหุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์วันนี้ (16 ก.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่น ดัชนีกลุ่มปิดที่ 166.72 จุด +3.70 จุด หรือ 2.27% มูลค่าซื้อขาย 2,715.12 ล้านบาท

หุ้น LH ปิด 4.46 บาท +0.18 บาท หรือ 4.21% มูลค่าซื้อขาย 377.41 ล้านบ.

SPALI ปิด 18.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 4.02% มูลค่าซื้อขาย 209.36 ล้านบ.

SIRI ปิด 1.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 3.33% มูลค่าซื้อขาย 278.07 ล้านบ.

AP ปิด 8.70 บาท +0.50 บาท หรือ 6.10% มูลค่าซื้อขาย 376.71 ล้านบ.

QH ปิด 1.45 บาท +0.03 บาท มูลค่าซื้อขาย 67.91 ล้านบ.

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า กล่าวว่า ราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์วันนี้ปรับตัวขึ้น คาดว่าจะเป็นเพราะเป็นหุ้นที่ให้ Yield สูง เนื่องจากราคาหุ้นอยู่ในโซนที่ต่ำมาก เทรด P/E ของหุ้นแต่ละตัวไม่ถึง 10 เท่า อย่างหุ้น SPALI เทรด P/E แค่ 6 เท่า, AP เทรด P/E 5.59 เท่า และ SIRI เทรด P/E แค่ 5.71 เท่า เรียกได้ว่าหุ้นแต่ละตัวอยู่ในโซนต่ำ ขณะที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend yield) สูง โดยปี 2568 หุ้น SIRI คาดให้ปันผล 7-8%, หุ้น SPALI คาดให้ปันผล 7.5% และ AP คาดให้ปันผล 7.1%

ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มอสังหาฯคาดว่าจะผ่านจุดต่ำสุด (Bottom) ไปแล้ว หลังเจอแรงกดดันจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และผลกระทบจากเศรษฐกิจด้วย และไตรมาส 3/2568 หลายบริษัทฯ อย่างเช่น SPALI เริ่มเห็นสัญญาณการโอนที่ดีขึ้น ทั้งคอนโดมิเนียม และแนวราบ ทำให้เห็นการกลับมาฟื้นตัวเร็วกว่าคาด พร้อมมองผลงานครึ่งหลังปี 2568 คาดว่าจะออกมาดีกว่าครึ่งปีแรก อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามยอดขาย และมาตรการของภาครัฐฯจะมีอะไรมาช่วยกระตุ้นภาคอสังหาฯเพิ่มหรือไม่

“เราให้น้ำหนักเป็นบวกกับเศรษฐกิจที่มีโอกาสฟื้นตัว และทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาลง ในช่วงครึ่งปีหลัง ที่จะสนับสนุนการลงทุนหุ้นอสังหาฯได้ โดยแนะนำหุ้น SPALLI และ AP เนื่องจากเป็นอสังหาฯใหญ่ที่ผลงานครึ่งปีหลังคาดว่าจะโตดีกว่าครึ่งปีแรก ส่วนเรื่องจะเปิดให้คอนโดสามารถปล่อยเช่าระยะสั้นได้แบบ Airbnb ปัจจัยนี้ไม่ได้ให้น้ำหนักเท่าไร”

น.ส.วฤณ มหาดำรงค์กุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ถือว่าเป็นขาขึ้น แม้ขณะนี้จะมีหลายปัจจัยเกื้อหนุนทั้ง ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาลง และแบงก์ชาติที่ผ่อนปรนเกณฑ์ LTV แต่ถือว่าทิศทางครึ่งหลังปี 2568 ดีกว่าครึ่งปีแรก จากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขาลง และการเปิดโครงการมากขึ้นของผู้ประกอบการซึ่งจะช่วยหนุนยอดขาย และยอดโอน ส่วนมากธุรกิจจะเข้าสู่จุดพีคในช่วงไตรมาส 4

“แม้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยจะเป็นขาลง แต่ธนาคารก็มีความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ และแบงก์ชาติผ่อนปรนเกณฑ์ LTV ทำให้ลูกค้าสามารถกู้ได้มากขึ้น แต่ถ้าเครดิตลูกค้าไม่ดี ธนาคารก็ไม่ปล่อยสินเชื่อ ดังนั้นการผ่อนปรนเกณฑ์ LTV จึงไม่ช่วยมาก”

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์น้ำท่วมด้วย เพราะจะทำให้ยอดชมโครงการลดลง ซึ่งมีผลต่อยอดขายด้วย

อย่างไรก็ดี หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจเข้าลงทุน และได้แนะนำ”ซื้อ”เป็นหุ้น AP และ SPALI เนื่องจากมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดี และงานในมือ (Backlog) ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีด้วย โดยมีสัดส่วนรายได้จากแนวราบสูง โดย AP มีราคาเป้าหมาย 10.40 บาท ส่วน SPALI ปัจจุบันราคาหุ้นได้ขยับขึ้นมาอยู่สูงกว่าราคาเป้าหมายที่ให้ไว้ที่ 16.30 บาท แล้ว จึงปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อเก็งกำไร” ส่วนผลงานไตรมาส 3/2568 ของ AP และ SPALI คาดว่าจะออกมาดีขึ้นเมื่อเทียบ HoH และ QoQ

AP ปี 2568 มีแผนเปิด 42 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 65,000 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกเปิดไป 8 โครงการใหม่ ในไตรมาส 3/2568 จะเปิด 18 โครงการใหม่ และไตรมาส 4/2568 จะเปิด 16 โครงการใหม่
ส่วน SPALI ปี 2568 มีแผนเปิด 36 โครงการ มูลค่ารวม 46,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกเปิดไป 8 โครงการใหม่ ในไตรมาส 3/2568 จะเปิด 8 โครงการใหม่ และไตรมาส 4/2568 จะเปิดอีก 20 โครงการใหม่ ซึ่งทั้ง AP และ SPALI มีโอกาสที่จะเปิดโครงการใหม่ได้ครบตามแผน

อ่านข่าวอื่นๆ : https://hoonsmart.com/archives/377407