HoonSmart.com>>บล.เอเซีย พลัส (ASPS) มองปัจจัยบวกต่างประเทศและในประเทศ หนุนหุ้นไทย ธปท.-คลังพิจารณาเก็บภาษีซื้อขายทอง ชะลอเงินบาทแข็งเกินไป หนุนกลุ่มส่งออก HANA, DELTA, KCE, TU, ITC, CPF ท่องเที่ยว AOT, AAV, CENTEL, ERW โรงพยาบาล BDMS, BH, BCH
บล.เอเซีย พลัส (ASPS) เปิดเผยบทวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในกรอบ 0.1%–0.9% ยังได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25% ในการประชุม 17 ก.ย. 2568 โดยตลาดรอติดตาม Dot Plot และคำแถลงของ Jerome Powell เพื่อประเมินทิศทางการลดดอกเบี้ยในรอบถัดไป อีกหนึ่งปัจจัยบวกคือดีล สหรัฐ–จีนบรรลุข้อตกลง TikTok ซึ่งสถิติในอดีตมักส่งผลเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีนทุกครั้งที่ Trump เลื่อนมาตรการแบน
ธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาเก็บภาษีจากการซื้อขายทองคำในประเทศ เพื่อชะลอแรงหนุนค่าเงินบาทแข็งเกินไป ซึ่งจะเป็นผลดีต่อภาคส่งออกและท่องเที่ยวที่คิดเป็นกว่า 70% ของ GDP ไทย มาตรการดังกล่าวกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าระยะสั้น และหากประกาศใช้อย่างเป็นทางการ จะยิ่งหนุนกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า ได้แก่ กลุ่มส่งออก HANA, DELTA, KCE, TU, ITC, CPF กลุ่มท่องเที่ยว: AOT, AAV, CENTEL, ERW กลุ่มโรงพยาบาล: BDMS, BH, BCH
ด้านกลยุทธ์การลงทุน SET ปรับขึ้นต่อเนื่อง 7 วันติด ทำระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน และใกล้แตะ 1,300 จุด รับแรงบวกจากทั้งปัจจัยต่างประเทศที่ผ่อนคลาย และปัจจัยการเมืองในประเทศที่ชัดเจนขึ้น กลยุทธ์แนะนำเน้น หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งกำลังเข้าสู่ High Season ปลายปี โดยเฉพาะช่วง Golden Week (ต้นไตรมาส 4) ผสานกับแนวโน้มเงินบาทอ่อนค่า สถิติย้อนหลัง 4 ปี หุ้นท่องเที่ยวไทย (Tourism) มักให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +2.78% ในเดือนก.ย.