“นายกฯอนุทิน” นำทีมลุยฟื้นเศรษฐกิจ  จับมือสภาอุตฯ เร่งแก้ 4 ปัญหาใหญ่

HoonSmart.com>>นายกฯ อนุทิน นำทีมรัฐมนตรีบุก ส.อ.ท. เปิดเวทีหารือเร่งแก้ 4 ปัญหาใหญ่ฟื้นเศรษฐกิจไทย ดันลงทุนในประเทศ ชู “ดรีมทีมต้องเป็นเรียลทีม”ย้ำไทยไม่แพ้ใคร ต้องเร่งปรับตัว ด้านส.อ.ท. เสนอ 5 มาตรการรับมือภาษีสหรัฐฯ SMEs เปราะบาง ค่าไฟแพง การค้าชายแดน และเงินบาทแข็ง 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ประกอบด้วยนายสุชาติ ชมกลิ่น นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ นายธนกร วังบุญคงชนะ นายวรภัค ธันยาวงษ์ และนายกุลิศ สมบัติศิริ

ประชุมหารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประกาศจุดยืนชัดเจนว่ารัฐบาลจะใช้ทุกกลไกที่มีอยู่เพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ท่ามกลางความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกและความขัดแย้งทางการค้า

เน้นย้ำว่า ประเทศไทยไม่ด้อยไปกว่าประเทศใดในภูมิภาค แต่จำเป็นต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและความสามารถในการแข่งขัน โดยรัฐบาลจะสนับสนุนการลงทุนภายในประเทศอย่างเต็มที่ พร้อมเร่งหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อออกมาตรการจูงใจนักลงทุน

“เราต้องให้ความสำคัญกับปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของผู้ประกอบการ หรือแม้แต่ปัญหาการค้าชายแดนไทย–กัมพูชา เราต้องใช้ทุกวิธีในการแก้ปัญหา ทั้งทางการทหาร ทางการทูต และการหารือกับฝ่ายกัมพูชาอย่างใกล้ชิด”นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนภายใน 4 เดือนแรกของการบริหารงาน โดยเน้น 4 ด้านหลัก

1. ด้านเศรษฐกิจ มุ่งดำเนินมาตรการเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ค่าครองชีพ ค่าพลังงาน ค่าเดินทาง และค่าขนส่งต่างๆ พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยอย่างเร่งด่วน

2. ด้านความมั่นคง มุ่งแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาด้วยแนวทางสันติภาพ เพื่อลดความสูญเสียและผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศ

3. ด้านภัยธรรมชาติ ต่อยอดการพัฒนาระบบเตือนภัยที่เคยริเริ่มไว้ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมเร่งชดเชยความเสียหายแก่ประชาชนที่ประสบภัยธรรมชาติให้ทันการณ์

4. ด้านภัยสังคม มุ่งปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ สแกมเมอร์ การพนัน และการพนันออนไลน์อย่างจริงจัง โดยสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศ เพื่อกวาดล้างปัญหาภัยสังคมในทุกรูปแบบ

นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องให้ความสำคัญกับปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของผู้ประกอบการ หรือแม้แต่ปัญหาการค้าชายแดนไทย- กัมพูชา ต้องใช้ทุกวิธีในการแก้ปัญหาทั้งทางด้านการทหาร ทางการทูต และการหารือกับฝ่ายกัมพูชาอย่างใกล้ชิด

ในเรื่องของผู้ประกอบการ จะสนับสนุนให้มีการลงทุน และผลิตสินค้าภายในประเทศมากขึ้น ประเทศไทยไม่ได้ด้อยไปกว่าประเทศอื่น ขณะเดียวกันมีประเทศคู่แข่งเยอะ ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องตื่นตัว เพื่อความอยู่รอดของประเทศ และต้องเร่งหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ด้วยในเรื่องส่งเสริมการลงทุน ถึงแม้ว่ารัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่มั่นใจว่าจะใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ผลักดันให้ประเทศไทยเติบโตและทำให้ทุกฝ่ายเกิดความคล่องตัวมากขึ้น

“ดรีมทีม จะเป็น เรียลทีม ไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก เราจะใช้หลักการทำงานเป็นทีม เพื่อพัฒนาประเทศชาติ” นายอนุทิน กล่าว

นายกรัฐมนตรีระบุว่า รัฐบาลชุดนี้แม้จะเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่จะใช้อำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อสร้างความคล่องตัวให้ทุกภาคส่วน และผลักดันให้ประเทศไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เสนอ 5 ประเด็นเร่งด่วน ประกอบด้วย

1. รับมือมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และสงครามการค้า

2. ส่งเสริมสภาพคล่อง SMEs ด้วยมาตรการ Fast Track

3. ปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า ลดต้นทุนผู้ประกอบการ

4. แก้ปัญหาการค้าชายแดนไทย–กัมพูชา

5. รับมือผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า เสนอให้รัฐศึกษาและแยกแยะผลกระทบจากธุรกรรมทองคำ คริปโต และการโอนเงิน พร้อมส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นและเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

รวมถึง เสนอให้จัดตั้งเวทีหารือผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม

“นี่คือจุดเริ่มต้นของความร่วมมือเชิงรุก ส.อ.ท. พร้อมเดินเคียงข้างรัฐบาลเพื่อสร้างเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งและยั่งยืน” นายเกรียงไกร กล่าว

ด้านนายนาวา จันทนสุรคน รองประธาน ส.อ.ท. ได้ชี้แจงว่า สหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษี 19% ตั้งแต่ 7 ส.ค. 2568 และอาจเพิ่มเป็น 40% หากพบการสวมสิทธิ์จากประเทศที่สาม โดยยังไม่มีหลักเกณฑ์ RVC ที่ชัดเจน ส.อ.ท. จึงเสนอให้ตั้งหน่วยงานให้คำปรึกษาและส่งเสริมการปรับตัวของผู้ประกอบการ

นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่าจากกรณี NPL SMEs สูงถึง 243,026 ล้านบาท เสนอสินเชื่อฉุกเฉินอนุมัติเร็ว ค้ำประกันสูง และเปิดช่องทางด่วนสำหรับวงเงิน 5–10 ล้านบาท พร้อมมาตรการ Hair Cut ลดหนี้เสีย

ด้านนายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธาน ส.อ.ท.เสนอปรับโครงสร้างค่าไฟให้สะท้อนต้นทุนจริง พร้อมผลักดัน PDP ฉบับใหม่ภายในปีนี้ และลดวงเงินประกันการใช้ไฟฟ้าเพื่อเสริมสภาพคล่อง

นายเวทิต โชควัฒนา รองประธาน ส.อ.ท.เสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา ทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว รวมถึงการเจรจาระดับทวิภาคี และสนับสนุน Soft Loan