HoonSmart.com >>กลุ่มน้ำมันและก๊าซของไทย หมดยุคต้นทุนก๊าซสูงด้วย LNG ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น Neutral จาก Underweight และปรับเพิ่มคำแนะนำ PTT เป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ” BGRIM แนะ “ถือ” ได้ประโยชน์จากราคาก๊าซที่ตกต่ำ และบริษัทย่อยในธุรกิจไฟฟ้าอย่าง GPSC ส่วนราคาก๊าซ Henry Hub ที่สูงขึ้นจะช่วยหนุน โครงการ Jackson ในสหรัฐของ GULF

ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า องค์กรพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่า อุปทานก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 7% yoy ในปี 69 จากการเปิดโครงการใหม่ในสหรัฐ, แคนาดา และกาตาร์ ซึ่งสูงกว่าอุปสงค์ที่คาดจะเติบโต 2% ในช่วงเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ฯ มองว่า อาจมีอุปทานเพิ่มเติมจากยอดส่งออกก๊าซผ่านท่อส่งก๊าซและโครงการ Arctic 2 ของรัสเซีย
โดยขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งจะส่งผลให้ risk premium ของราคาก๊าซ TTF (Title Transfer Facility) ของเนเธอร์แลนด์หมดไป
นอกจากนี้ เชื่อว่าการที่ตลาดก๊าซของยุโรปและเอเชียเชื่อมโยงกันและจีนมีความต้องการนำเข้าก๊าซน้อยลงน่าจะทำให้ราคาก๊าซ LNG ในตลาด JKM (Japan-Korean Market) ปรับตัวลงจาก 12.7 เหรียญสหรัฐ/mmbtu ในปี 68 เหลือ 11.25 เหรียญสหรัฐ/mmbtu ในปี 69 และ 10.5 เหรียญสหรัฐ/mmbtu ในปี 70
ขณะเดียวกันคาดว่าราคาก๊าซ Henry Hub ของสหรัฐฯจะปรับตัวขึ้นในปี 69-70 จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในประเทศและ takeaway capacity (ความสามารถในการลำเลียงผ่านท่อส่งก๊าซ) ที่เพิ่มขึ้น
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI มองว่า การผลิตก๊าซในอ่าวไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หลังจาก PTTEP เข้าร่วมลงทุนในแปลง A-18 ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (MTJDA) โดยหากเปรียบเทียบกับผู้ดำเนินการก่อนหน้านี้ที่เชื่อว่าน่าจะต้องการให้อัตราการผลิตค่อยๆลดลงจนสิ้นสุดสัญญาในปี 72 PTTEP มีแผนใช้งบลงทุนที่ชัดเจน เพื่อให้การผลิตทรงตัวอยู่ที่ 400-500mmscfd ช่วง 10 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังเห็นความพยายามของหน่วยงานรัฐที่จะลดการพึ่งพา LNG นำเข้าราคาแพงด้วยการขยายเวลาปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินจากปี 68 เป็นปี 74
ดังนั้น ฝ่ายวิเคราะห์ฯ จึงปรับลดสัดส่วน LNG นำเข้าราคาแพงในประมาณการอุปทานก๊าซธรรมชาติของไทยจาก 33-35% เป็น 29-31% ในปี 68-70 ซึ่งการที่ก๊าซราคาถูกจากอ่าวไทยมีสัดส่วนสูงขึ้น ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ฯปรับประมาณการต้นทุน pool gas จาก 296 บาท/mmbtu เป็น 287 บาท/mmbtu ในปี 68, จาก 282 บาท/mmbtu เป็น 275 บาท/mmbtu ในปี 69 และจาก
278 บาท/mmbtu เป็น 267 บาท/mmbtu ในปี 70
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ปรับเพิ่มคำแนะนำกลุ่มน้ำมันและก๊าซของไทยจาก Underweight เป็น Neutral เพราะการที่ราคาก๊าซในตลาดโลกปรับตัวลง จะช่วยลดแรงกดดันด้านต้นทุน PTT ในปี 69-70 จึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” นอกจากนี้ ธุรกิจโรงแยกก๊าซของ PTT น่าจะมี EBITDA ผันผวนน้อยลงหลังมีการปรับโครงสร้างราคา pool gas ซึ่งรอการอนุมัติจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
ขณะที่ยังมีมุมมองเชิงลบต่อกลุ่มปิโตรเคมี โดยเฉพาะ PTTGC แม้ว่าประเทศไทยจะทำข้อตกลงนำเข้าอีเทนจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้น เพราะไม่สามารถประหยัดภาษีเพิ่มเติม อีกทั้งราคาอีเทนอาจพุ่งสูงขึ้นตามราคาก๊าซ Henry Hub ช่วง 2-3 ปีข้างหน้า สำหรับอุตสาหกรรมสาธารณูปโภค
ราคาก๊าซที่ตกต่ำ จะเป็นผลดีกับ BGRIM (ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ขาย” เป็น “ถือ”) และบริษัทย่อยในธุรกิจไฟฟ้าอย่าง GPSC ส่วนราคาก๊าซ Henry Hub ที่สูงขึ้นจะช่วยหนุน โครงการ Jackson ในสหรัฐของ GULF
ทั้งนี้ กลุ่มน้ำมันและก๊าซจะมี upside risk หากความต้องการน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ส่วน downside risk คือการที่ราคาก๊าซโลกพุ่งสูงขึ้นกะทันหัน จากความไม่แน่นอนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์
