“คิงส์ฟอร์ด” คาดแนวต้านดัชนี 1,280-1,290 จุด หุ้นเด่น SGC-BCH

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดตลาดยังได้แรงหนุนลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ ช่วยกระตุ้น GDP ได้ราว +0.3% แนะซื้อเก็งกำไรกลุ่มค้าปลีก, อุปโภค, ไฟแนนซ์, กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลง หุ้นเด่น SGC, BCH

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,260 – 1,270 จุด แนวต้าน 1,280 – 1,290 จุด คาดจะได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มค้าปลีก, อุปโภค, ไฟแนนซ์ เข่น CPALL,CPAXT,BJC,TNP/ CBG,OSP,ICHI/ SAWAD,MTC,TIDLOR,KTC,SINGER,AEONTS / กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลง เช่น AP,SPALI,DIF,3BBIF

ปัจจัยการเมืองในประเทศมีความชัดเจนขึ้น และอยู่ระหว่างรอมาตรกกระตุ้นเศรษฐกิจของ ครม.ชุดใหม่ เช่น โครงการคนละครึ่งวงเงินราว 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดจะช่วยกระตุ้น GDP ได้ราว +0.3% ขณะที่การประชุม ครม.แพทองธารนัดสุดท้ายวานนี้มีมติขยายมาตรการลดภาษี VAT ที่ 7% ต่อเป็นเวลา 1 ปี จนถึง 30 ก.ย. 69

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดวานนี้ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ +0.43%, S&P500 +0.27%, Nasdaq +0.37% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสื่อสาร +1.64%,สาธารณูปโภค +0.71% ขณะที่กลุ่มวัสดุ -1.57%, อุตสาหกรรม -0.65% โดยดัชนีได้ปัจจัยหนุนจากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. เนื่องจากตลาดแรงงานมีสัญญาณชะลอตัว

หุ้นเด่นแนะนำ SGC (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Consensus N.A.บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q68 ที่ 104 ล้านบาท +47%QoQ, +174%YoY หนุนจากการเติบโตของยอดการปล่อยสินเชื่อ Lock Phone ทดแทนรายได้ที่ลดลงของสิ้นเชื่อรถทำเงิน C4C รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารและต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใน 2Q68 บริษัทมีรายได้รวม 737 ล้านบาท +10%QoQ, +67%YoY ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่รวมของบริษัทอยู่ที่ 2,128 ล้านบาท และงวด 1H68 ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่สะสมอยู่ที่ 3,908 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ 95% มาจากสินเชื่อ Lock Phone

สำหรับแนวโน้ม 2H68 ผู้บริหารตั้งเป้าหมายยอดปล่อยสินเชื่อใหม่รวมทั้งปี 2568 ไว้ที่ 8,000 ล้านบาท และมีเป้าหมายในการขยายเครือข่ายร้านค้าพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการ Lock Phone เป็น 7,000 แห่งทั่วประเทศ การปล่อยสินเชื่อผ่าน digital platform SG FINANCE+ หนุนยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ต่อเดือน (เดือน ก.ค.ปล่อยได้ 800-900 ล้านบาท new high) เบื้องต้นกำไรปี 68 น่าจะแตะ 400 ล้านบาท จากปีก่อนที่กำไร 163 ล้านบาท

หุ้น BCH (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 18.40 บาท) กำไรสุทธิ 388 ลบ.(+40%YoY, +21%QoQ) หลักๆมาจากการรับรู้รายได้ส่วนเพิ่มจากการรักษาผู้ป่วย 26 โรคเรื้อรังของ SSO ราว +60 ลบ.(After Tax) ส่วนการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง แม้ 3Q68 คาดว่ายังท้าทายจาก 3Q67 มีรายการบวก 26 โรคเรื้อรัง และ มีการระบาดของโรคท้องถิ่นสูง อย่างไรก็ตามคาด 4Q68 เห็นการฟื้นตัวเด่น YoY จากการรับรู้รายได้โรค Adj.Rw>2 ที่อัตราคงที่ 1.2 หมื่นบาท/Adj.RW ในปีนี้

นอกจากนี้ ยังคาดหวัง Sentiment บวกจาก 1.ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาที่ลดลง และ 2.สัญญาณดีขึ้นจากคูเวต โดย BCH เป็นหนึ่งในร.พ.ที่ได้รับเชิญไปงาน Rediscovering Health in Thailand ช่วงกลางเดือนนี้

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–