HoonSmart.com>>ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล-อโกด้า-การบินไทย ร่วมส่งสัญญาณ “ไทยยังแรง” ขึ้นแท่นจุดหมายอันดับ 2 ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ชี้เทรนด์ “ยั่งยืนด้านธรรมชาติ+วัฒนธรรม +สุขภาพ” ดึงดูดนักเดินทางจากตะวันออกกลาง เอเชีย แต่ตลาดจีนยังไม่ฟื้น เดินหน้าปรับโครงสร้างเที่ยวบิน แก้ปัญหาบุคลากรขาดแคลน รับมือตลาดการบินเอเชียแปซิฟิกโตเร็วสุดในโลก
ในเวที Thailand Focus 2025 ภายใต้หัวข้อ “Beyond Recovery: Transforming Thailand’s Tourism for a Sustainable and High-Value Future” (ยกระดับการท่องเที่ยวไทย: มองไกลกว่าการฟื้นตัว สู่การสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน) ผู้นำจากสายการบิน โรงแรม และแพลตฟอร์มท่องเที่ยว โดยมี น.ส.นันทิกา เวียงเพิ่ม ผู้อำนวยการอาวุโส บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ดำเนินรายการ
นาย วิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) กล่าวว่า การท่องเที่ยวไทยกำลังเข้าสู่คลื่นลูกใหม่ที่เน้นท่องเที่ยวในมุมของความยั่งยืน หรือ Sustainability และด้านสุขภาพ (Wellness Tourism)
ในช่วงที่ผ่านมาทางบริษัทฯได้เปิดเวลเนส คลินิก เพิ่มขึ้นหลายแห่ง ซึ่งแยกออกมาจากธุรกิจสปา และประสบความสำเร็จอย่างมาก จากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาจากกลุ่มพักผ่อนระยะยาว รวมทั้งจากนักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง
นอกจากการมาท่องเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ปัจจัยด้านวัฒนธรรมก็ยังดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นด้วย
“การอนุรักษ์ธรรมชาติที่สวยงาม ให้มีคุณภาพรองรับการท่องเที่ยวยังคงเป็นแรงดึงดูดใหญ่ให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยว
“นายไฮเน็ค กล่าว
นายไฮเน็ค กล่าวว่า ความขัดแย้งชายแดนและสงครามระหว่างประเทศ ตั้งแต่รัสเซีย-ยูเครน อิสราเอล-ฮามาส จนถึงกรณีกัมพูชา ล้วนส่งผลต่อการไหลของนักท่องเที่ยวและการลงทุน แม้บางวิกฤต เช่น สงครามการค้าสหรัฐ-จีน ทำให้นักท่องเที่ยวยุโรปและแคนาดาหันมาเอเชียมากขึ้น จนการบินไทยได้อานิสงส์ แต่ภาพรวมยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ไทยขึ้นแท่นหมุดหมายอันดับ 2 ของโลก
Mr.Damien Pfirsch Chief Commercial Officer ของ Agoda แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวระดับโลก เปิดเผยว่า ข้อมูลจากแพลตฟอร์มระบุว่า ไทยคือจุดหมายท่องเที่ยวอันดับ 2 ของโลก มีการเติบโตเฉลี่ย 17% ต่อปี โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักมาจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ขณะที่ กรุงเทพฯ ครองแชมป์เมืองที่มีผู้มาเยือนซ้ำมากที่สุด 7 ปีติดต่อกัน โดยคนที่เดินทางมาไทย ยังมียอดใช้จ่ายค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ตลาดนักท่องที่น่ากังวลคือ จีน ซึ่งฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด แม้ชาวจีนยังเดินทางออกนอกประเทศมาก แต่เลือกจุดหมายอื่นมากกว่าไทย พร้อมกับเสนอว่า ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมกันฟื้นความเชื่อมั่น โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย
THAI ปรับตัวรับอนาคตการบินเอเชีย
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย (THAI) กล่าวว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างฝูงบินจาก 8 แบบ เหลือ 4 แบบ เพื่อบริหารต้นทุนซ่อมบำรุงอย่างมีประสิทธิภาพ และปรับสัดส่วนเที่ยวบิน direct flight ต่อ connect flight มาอยู่ที่ 80/20 ในครึ่งแรกปีนี้ จากที่เคย 90/10 ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดการบินเอเชียแปซิฟิก
ที่ผ่านมาปัญหาใหญ่ คือ ข้อจำกัดของเที่ยวบินตรงระหว่างไทย กับ ยุโรป นักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องต่อเครื่องที่ดูไบ ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่ตะวันออกกลางแทน ซึ่งทำให้โรงแรมไทยเสียโอกาสด้านรายได้
นอกจากนี้ ปัญหาขาดแคลนบุคลากรหลังโควิดยังเป็นอุปสรรคระยะยาว ซึ่งบริษัทฯได้ลงทุนด้านการศึกษาและการฝึกนักบิน เพื่อแก้ปัญหานี้อย่างยั่งยืน
