HoonSmart.com>>กระทรวงการคลัง เตรียมปรับเป้าเศรษฐกิจใหม่ มั่นใจมีโอกาสเติบโตมากกว่าที่กระทรวงการคลังคาดการณ์ไว้ที่ 2.2% หลังครึ่งปีแรกขยายตัวได้ราว 3% เดินหน้าปฏิรูปตลาดทุน เร่งผุดศูนย์กลางการเงินระดับภูมิภาค

ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Policy & Markets: Building Confidence in Thailand’s Investment Climate” ในงาน Thailand Focus 2025: Beyond the Challenges และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสเติบโตมากกว่าที่กระทรวงการคลังคาดการณ์ไว้ที่ 2.2% หลังครึ่งปีแรกขยายตัวได้ราว 3% โดยจะมีการปรับตัวเลขประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่
แม้เศรษฐกิจโลกยังเผชิญแรงกดดันจากภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความก้าวหน้าของ AI แต่ไทยยังได้รับแรงหนุนจากการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ที่แข็งแกร่ง รวมถึงการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มพรีเมียมอย่างท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแพทย์ กีฬา และ MICE
“ความท้าทายคือการรักษาโมเมนตัมการเติบโตครึ่งปีแรกให้ยั่งยืน” ดร.เผ่าภูมิกล่าว
ดร.เผ่าภูมิ กล่าวว่า พื้นที่ทางการคลังยังมีเพียงพอ เนื่องจากหนี้สาธารณะอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงแล้ว และยังมีช่องทางสำหรับการปรับลดเพิ่มเติมหากจำเป็น
ด้านการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ที่ไทยถูกเก็บภาษีนำเข้า 19% ถือว่าดีกว่าประเทศคู่แข่งในภูมิภาค เนื่องจากสัดส่วนการผลิตในประเทศสูงกว่า ทำให้มีโอกาสได้ภาษีในอัตราต่ำกว่า ขณะเดียวกัน ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในครึ่งปีแรกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ด้านนโยบายการเงินและตลาดทุน รัฐบาลกำลังเดินหน้าปฏิรูป โดยเตรียมออกตราสารการเงินเพื่อความยั่งยืน อาทิ กองทุน ThaiESGX, พันธบัตรเพื่อความยั่งยืน และพันธบัตรสีเขียว (Green Bond) ควบคู่กับแผนผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการเงินภูมิภาค ซึ่งร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาเร็วๆ นี้
“หากเศรษฐกิจชะลอตัว รัฐบาลพร้อมพิจารณามาตรการการคลังเพิ่มเติม แม้เพิ่งออกแพ็กเกจ 1.5 แสนล้านบาทไปแล้ว โดยย้ำว่ามาตรการการคลังและการเงินยังมีช่องทางรองรับความผันผวนได้”ดร.เผ่าภูมิ กล่าว
สำหรับ รายละเอียดปัจจัยที่เป็นแรงหนุนเศรษฐกิจหทยเติบโตกว่าคาดการณ์เดิมที่ 2.2% ประกอบด้วย
1.เศรษฐกิจโลกปีนี้เติบโตในระดับปานกลาง ท่ามกลางผลกระทบจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาโลกร้อน การเติบโตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และกระแสพลังงานงานสะอาด
2.ความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศและทรัพยากรกลายเป็นตัวแปรทางเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ เรากำลังเตรียมความพร้อมผ่านการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน การบริหารจัดการน้ำ และโครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่น เพื่อให้การเติบโตสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมและความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
3.การส่งออกของไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 มีความแข็งแกร่งขึ้น โดยได้แรงหนุนจากห่วงโซ่อุปทานอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการเข้าถึงตลาดที่หลากหลาย และประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ที่ดีขึ้นผ่านประตูการค้าและระเบียงเศรษฐกิจที่สำคัญ
4.การท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ในขณะที่กลุ่มตลาดระดับพรีเมียม เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแพทย์ กีฬา และ MICE กำลังขยายตัว และสนับสนุนการจ้างงานในภาคบริการทั่วทุกภูมิภาค
ในขณะที่เศรษฐกิจไทยปรับตัวไปกับกระแสโลก เศรษฐกิจในประเทศมีความเข้มแข็งและสามารถเผชิญกับความท้าทายได้ โดยเศรษฐกิจในครี่งปีแรกเติบโตได้ดี 3% ความท้าทายคือ การรักษาโมเมนตัมของการเติบโตในช่วงครึ่งแรกให้ยั่งยืน
