HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 แห่งปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 135 จุด จากหุ้นเฮลธ์แคร์และเทคโนโลยีที่พุ่งสูงขึ้น หวังเฟดลดดอกเบี้ยก.ย. และรอผลประกอบการ Nvidia ตัวชี้วัดสำคัญในความแข็งแกร่งการพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงของ AI ในปีนี้ ส่วนตลาดหุ้นยุโรป และราคาน้ำมันลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 26 ส.ค. 2568 ปิดที่ 45,418.07 จุด เพิ่มขึ้น 135.60 จุด หรือ +0.30% จากหุ้นเฮลธ์แคร์และเทคโนโลยีที่พุ่งสูงขึ้นช่วยชดเชยความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ปลดลิซา คุก ผู้ว่าการเฟด ออกจากตำแหน่ง ขณะที่นักลงทุนหันไปให้ความสนใจกับผลประกอบการของ Nvidia ในวันพุธ
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,465.94 จุด เพิ่มขึ้น 26.62 จุด, +0.41%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,544.27 จุด เพิ่มขึ้น 94.98 จุด, +0.44%
หุ้น Eli Lilly พุ่งขึ้นมากกว่า 5% นำหุ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์เฮลธ์แคร์หลังจากรายงานว่ายาลดน้ำหนักแบบรับประทานวันละครั้งบรรลุเป้าหมายหลักและเป้าหมายรอง ปูทางให้บริษัทยายักษ์ใหญ่รายนี้ยื่นขออนุมัติยาจากหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกในปีนี้
ในช่วงแรกตลาดปรับตัวลง นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง หลังทรัมป์เผยแพร่จดหมายผ่านโซเชียลมีเดียประกาศปลดลิซาคุกผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกจากตำแหน่งคณะกรรมการธนาคารกลางเมื่อค่ำวันจันทร์ โดยมีผลทันที โดยกล่าวว่าการปลดคุกครั้งนี้เชื่อมโยงกับข้อกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัย และมีเหตุผลเพียงพอสำหรับการปลดเธอออก คุกปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และเตรียมยื่นฟ้องทรัมป์ที่ตัดสินใจปลดเธอออก แต่ประธานาธิบดีกล่าวเมื่อวันอังคารว่า เขาพร้อมสำหรับการต่อสู้ทางกฎหมาย
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนระยะยาวปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ปลดคุก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 3.685% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.911% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 4.26%
การดำเนินการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของทรัมป์ยิ่งเพิ่มแรงกดดันของประธานาธิบดีต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลาง ตามกฎหมายแล้ว ประธานาธิบดีสามารถปลดผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกจากตำแหน่งได้ด้วยเหตุผลเท่านั้น
อย่างไรก็ตามตลาดปรับขึ้นจากความคาดหวังเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะลดลงในเดือนกันยายน ตามที่ประธานเฟดได้ส่งสัญญาณไว้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่แจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง นอกจากนี้ ยังรอรายงานผลประกอบการของ Nvidia ในวันพุธ ซึ่งอาจช่วยหนุนการซื้อขายหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่หลังจากที่ร่วงลงเมื่อเร็วๆ นี้ หุ้น Nvidiaเพิ่มขึ้น 1.08%
อดัม ไครซาฟุลลี ผู้ก่อตั้ง Vital Knowledge กล่าวว่า ในระยะอันใกล้นี้ ตลาดน่าจะผ่านข่าวคราวของ Cook ไปได้ค่อนข้างเร็ว โดยหันความสนใจกลับไปที่ Nvidia การรายงานข้อมูลการใช้จ่ายส่วนบุคคล (PCE) และการจ้างงาน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเป็นอิสระของเฟดกำลังถูกบั่นทอนลง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ส่งผลกระทบเชิงลบในระยะยาว
นอกจากนี้ความเชื่อมั่นของตลาดได้รับผลกระทบจากการที่ทรัมป์โพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันจันทร์ว่า เขาวางแผนที่จะกำหนดภาษีศุลกากรใหม่ในระดับที่สำคัญรวมไปถึงจำกัดการส่งออกชิปและเทคโนโลยีไปยังประเทศที่เก็บภาษีบริการดิจิทัลของสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นธรรม การตอบโต้นี้อาจเพิ่มความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ซึ่งได้ออกมาปกป้องการใช้มาตรการดังกล่าวเมื่อวันอังคาร
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานกระทรวงพาณิชย์เปิดเผย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนกรกฎาคม เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 2.8% ดีกว่า 3.8% ที่นักวิเคราะห์คาดจากที่ร่วงลง 9.3% ในเดือนมิถุนายน ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ เพิ่มขึ้น 1.1%
ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจาก Conference Board ลดลง 1.3 จุด สู่ระดับ 97.4 ในเดือนสิงหาคม สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จาก 98.7 ในเดือนกรกฎาคม
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ นำโดยการปรับตัวลงในฝรั่งเศส ซึ่งรัฐบาลเสียงข้างน้อยมีแนวโน้มจะถูกปลดออกจากตำแหน่งในเดือนหน้า ขณะเดียวกัน ความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านความเสี่ยงทั่วโลกลดน้อยลง
ดัชนีหุ้นหลักของฝรั่งเศสร่วงลง 1.7% และพันธบัตรก็ซบเซาลง เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านหลัก 3 พรรคกล่าวว่าจะไม่สนับสนุนการลงมติไม่ไว้วางใจที่นายกรัฐมนตรีฟรองซัวส์ บายรูประกาศในวันที่ 8 กันยายน เกี่ยวกับแผนการตัดลดงบประมาณครั้งใหญ่ของเขา
หุ้นธนาคารฝรั่งเศส BNP Paribas และ Societe Generale ร่วงลง 4.2% และ 6.8% ตามลำดับ โดยหุ้น Societe Generale ทำสถิติแย่ที่สุดในรอบกว่าสี่เดือน ส่งผลกระทบต่อภาคธนาคารโดยรวม ซึ่งเป็นปัจจัยที่ฉุดดัชนี STOXX 600 ของยุโรป ซึ่งร่วงลงอย่างหนักที่สุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน ตลาดหุ้นหลักในภูมิภาคทั้งหมดปิดตลาดในแดนลบเช่นกัน
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 554.20 จุด ลดลง 4.62 จุด, -0.83%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,265.80 จุด ลดลง 55.60 จุด, -0.60%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,709.81 จุด ลดลง 133.23 จุด, -1.70%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,152.87 จุด ลดลง 120.25 จุด, -0.50%
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ตัดสินใจปลดลิซา คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกจากตำแหน่ง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยอ้างเรื่องการทุจริตการกู้ยืมเงินจำนอง ส่งผลให้เกิดความกังวลอีกครั้งเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ตลาดกำลังเตรียมรับกับการรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของ Nvidia ในวันพุธ ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญในความแข็งแกร่งของการพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงของ AI ในปีนี้
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.55 ดอลลาร์ หรือ 2.39% ปิดที่ 63.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 1.58 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 67.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–

