บล.เคทีบี มองหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีแรงบวกไม่มาก กรอบ 1,630-1,670 จุด หลังปัจจัยต่างประเทศกลับมากดดันตลาดอีกรอบ ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง แนะกลยุทธ์ลงทุนรอจังหวะตลาดนิ่ง เน้นหุ้นที่ได้ปัจจัยบวกในประเทศ ชูหุ้นเด่น BJC, CPALL, SEAFCO, GULF, TISCO, HANA, SQ
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ ( 11-14 ธ.ค.) ว่า แนวโน้มตลาดจะได้รับผลกระทบจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯที่มีแนวโน้มชะลอตัว รวมถึงความไม่แน่นอนในเรื่องการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของอังกฤษ (BRExit) หลังจากนายกรัฐมนตรีอังกฤษเลื่อนการพิจารณาข้อตกลงกับอียูออกไป ขณะที่ผลการเจรจาการค้าสหรัฐฯกับจีนอาจไม่สำเร็จได้โดยง่ายหลังจากยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาการค้ากันซึ่งผ่านมาแล้ว 1 สัปดาห์ รวมทั้งมีการจับกุมผู้บริหารของบริษัทหัวเว่ยของจีนซึ่งอาจจะเป็นประเด็นที่มีผลต่อการเจรจาการค้ากัน ทำให้นักลงทุนทยอยลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลงซึ่งเห็นได้จากการร่วงลงของดัชนี Dow Jones เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลต่อประเด็นต่างๆ ขณะเดียวกันราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงจะทำให้หุ้นที่อิงราคาน้ำมันมีความผันผวนตามไปด้วย
ด้านปัจจัยในประเทศ การเลือกตั้งที่มีความชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. 2562 นั้นตลาดรับรู้เรื่องนี้มาระดับหนึ่งแล้ว แต่มีประเด็นที่ตลาดจับตามองตอนนี้คือพรรคใดจะชนะการเลือกตั้งและใครจะได้เป็นนายกคนต่อไป ซึ่งต้องรอให้มีการประกาศชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกของแต่ละพรรคก่อนถึงจะคาดการณ์ได้ว่าตัวเต็งจะมีใครบ้าง
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้ง เป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยไม่ร่วงลงไปมาก แม้เงินที่รัฐบาลอัดฉีดเข้าสู่ระบบจะมีผลทางตรงไม่มากต่อหุ้นในตลาด เพราะผู้ที่ได้ประโยชน์ตอนนี้คือกลุ่มค้าปลีกหรือขายสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก แต่เนื่องจากมีผลบวกต่อการบริโภคและการลงทุน ทำให้บริษัทต่างๆจะได้ประโยชน์ทางอ้อมด้วยเช่นกัน
สำหรับกลยุทธ์ลงทุนสัปดาห์นี้ KTBST ยังมองว่าตลาดหุ้นไทย จะเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นแต่ไม่แรง เพราะปัจจัยที่กลับมาทำให้เกิดกังวล นั่นคือ ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ชะลอตัวลง กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งอาจกินเวลาหลายวันกว่าที่ตลาดจะนิ่ง ดังนั้นนักลงทุนควรรอดูทิศทางตลาด (wait & see) โดย KTBST มองแนวรับสำคัญที่ 1,620-1,630 จุด แนะนำให้เน้นตั้งรับหุ้นที่มีปัจจัยบวกสนับสนุน โดยหุ้นกลุ่ม Domestic play น่าจะได้รับความสนใจมากกว่าด้วยปัจจัยบวกภายในประเทศ หุ้นที่น่าสนใจสัปดาห์นี้ได้แก่ BJC, CPALL, SEAFCO, GULF, TISCO, HANA, SQ คาดSET Index แกว่งในกรอบ 1,630-1,670 จุด