XYZ เผย Q2/68 ขาดทุน 35 ลบ. รายได้ลดลง 27.8%

HoonSmart.com>> “อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด” (XYZ) เปิดงบไตรมาส 2/68 ขาดทุนสุทธิ 35.40 ล้านบาท จากงวดปีก่อนกำไร 28.98 ล้านบาท รายได้เหลือ 489.2 ล้านบาท ลดลง 27.8% รายได้ “ธุรกิจกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม” ลดลงหลังปรับรูปแบบซิมการ์ดและโครงสร้างราคา เชื่อช่วยเพิ่มความสามารถทำกำไรระยะยาว พร้อมตั้งเป้าถือครอง 3,000 BTC ภายใน 3 ปี ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารพุ่ง 77.4% จากการทำสัญญาเช่าพื้นที่ระยะยาว

บริษัท อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด (XYZ) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 พลิกขาดทุนสุทธิ 35.40 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.021 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 28.98 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.021 บาท

ทั้งนี้เมื่อเทียบไตรมาส 1 ปี 2568 ขาดทุนสุทธิ 66.3 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 46.6% เนื่องจากได้มีการทยอยปรับด้อยค่าธุรกิจร้านอาหาร แบรนด์ Mom’s Touch ในไตรมาสที่ผ่านมา
ไปบางส่วนแล้ว

ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2568 ขาดทุนสุทธิ 99.56 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.06 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 58.06 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.044 บาท

บริษัทฯ มีรายได้จากการขายหรือบริการ ไตรมาส 2 ปี 2568 จำนวน 489.2 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ 481.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% แต่เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 677.7 ล้านบาท ลดลง 27.8%

บริษัทฯ มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม 474.6 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ 455.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่ 677.7 ล้านบาท ลดลง 30.0% รายได้ลดลงจากการปรับรูปแบบซิมการ์ดและโครงสร้างราคา ทำให้ต้องใช้เวลาในการปรับตัวของผู้บริโภคในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวคาดว่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ในระยะยาว รวมถึงบริษัทมีการทำโฆษณาและแคมเปญต่างๆ ของแพลตฟอร์มลดลง ทำให้ส่งผลกระทบต่อยอดขาย

ส่วนธุรกิจไนท์ไลฟ์ มีรายได้จำนวน 9.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ 11.2 ล้านบาท ลดลง 19.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนยังไม่มีกำรดำเนินธุรกิจ สำหรับไตรมาสปัจจุบันรายได้ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายด้านความบันเทิงของผู้บริโภค

กลุ่มธุรกิจบริการและร้านอาหาร (Service & Restaurant) มีรายได้จำนวน 5.6 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ 14.5 ล้านบาท ลดลง 61.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนยังไม่มีการดำเนินธุรกิจ สำหรับไตรมาสปัจจุบัน รายได้ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวและการยุติการดำเนินงานร้านอาหารแบรนด์ Mom’s Touch

กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง (Pet) อยู่ระหว่างการดำเนินการเริ่มธุรกิจ โดยปัจจุบันยังไม่เริ่มสร้างรายได้

ส่วนต้นทุนขายและบริการในไตรมาส 2 ปี 2568 จำนวน 238.7 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ 274.8 ล้านบาท ลดลง 13.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี ก่อนที่ 437.9 ล้านบาท ลดลง 45.5% ลดลงจากการปรับโครงสร้างราคาของสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยี

บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 207.5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ 178.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี ก่อนที่ 117.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.4% เพิ่มขึ้นจากการทำสัญญาเช่าพื้นที่ระยะยาว

สำหรับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทฯ เริ่มลงทุนครั้งแรก ม.ค.2568 จำนวน 18.94 เหรียญ ต่อมาขยายการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มเติมในเดือน ก.ค. อีก 31.05 เหรียญ รวมปัจจุบันมีกำรถือ Bitcoin รวม 50.00 เหรียญ โดยตั้งเป้า “เพิ่มจำนวนบิตคอยน์ต่อหุ้นให้สูงสุด สร้างคุณค่าในระยะยาวอย่างยั่งยืน” เป้าหมายการถือครอง 3,000 BTC ภายใน 3 ปี

•เป็นหนึ่งใน 5 บริษัทชั้นนำของประเทศไทย ด้านการถือครองบิตคอยน์ในคลัง (BTC Treasury)และติดอันดับ 50 บริษัทชั้นนำระดับโลก

• มีศักยภาพในกำรเติบโตของมูลค่าสุทธิต่อหุ้น (NAV) สูงถึง 15 เท่าาภายใน 3 ปี ในกรณีตลาดหมี (Bear Market) คาดการณ์อัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีประมาณ 30%

• ปรับปรุงกระแสเงินสดอิสระจากธุรกิจที่ดำเนินงาน (Free Cash Flow)

• สร้างธุรกิจยุคดิจิทัลที่สอดรับกับกลยุทธ์ BTC Treasury

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–