HoonSmart.com>>เซ็นทรัลพัฒนา กวาดกำไรไตรมาส 2 โตต่อเนื่อง รับ 3,902 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% พร้อมปันผลปันผล 2.10 บาทต่อหุ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เดินหน้าซื้อหุ้นคืนวงเงิน 5,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 18 ส.ค. 2568 ถึง 17 ก.พ. 2569 เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นในระยะยาว รุกสร้างแลนด์มาร์กระดับโลกและระบบธุรกิจยั่งยืน
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN)รายงาน ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 ที่แข็งแกร่ง รายได้รวม 11,653 ล้านบาท เติบโต 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 3,902 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% โดยไม่รวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สะท้อนความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจค้าปลีกที่สามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผล 2.10 บาทต่อหุ้น ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเดินหน้าซื้อหุ้นคืนวงเงิน 5,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 18 ส.ค. 2568 ถึง 17 ก.พ. 2569 เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นในระยะยาว
น.ส.นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน บัญชีและบริหารความเสี่ยง CPN กล่าวว่าแม้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 จะได้รับผลกระทบบางส่วนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเดือนมีนาคม แต่เซ็นทรัลพัฒนาสามารถรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนที่เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้บริการศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ

ธุรกิจศูนย์การค้า ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีอัตรากำไรเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด สอดคล้องกับยอดขายของผู้เช่า โดยเฉพาะแบรนด์ใหม่จากทั้งในและต่างประเทศที่เข้ามาเติมเต็มพื้นที่เช่าอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านพลังงานและการตลาด
สำหรับ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 เซ็นทรัลพัฒนาเตรียมเปิดตัวโครงการสำคัญ 2 แห่ง ได้แก่: เซ็นทรัล พาร์ค เปิด 4 กันยายนนี้ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ บริเวณหัวมุมถนนสีลมตัดพระราม 4 ตรงข้ามสวนลุมพินี ซึ่งจะเป็นศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานที่ดีที่สุดในเมืองหลวง ดึงดูดทราฟฟิกมหาศาลจากโลเคชั่น Interchange สำคัญ พร้อมแบรนด์ระดับโลกที่เข้ามาเปิดร้านเต็มพื้นที่ และอาคารสำนักงานที่ออกแบบเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่
เซ็นทรัล กระบี่ เปิด 24 ตุลาคมนี้ เป็นศูนย์การค้าลำดับที่ 44 ของเซ็นทรัลพัฒนา และเป็นมิกซ์ยูสแห่งแรกในจังหวัดกระบี่ เมืองท่องเที่ยวระดับโลก โดยช่วงไฮซีซั่น (ต.ค. 68 – มี.ค. 69) คาดว่าจะมีเที่ยวบินเข้ากระบี่กว่า 4,000 เที่ยว ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มกำลังซื้อสูงจากยุโรปและตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดตัวโฉมใหม่ของ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และ เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ภายใต้แผน Transformation ที่เน้นการดึงแบรนด์ดังเข้าพื้นที่ และรองรับกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงในย่านที่มี Catchment กว่า 3 ล้านคน
บริษัทฯเดินหน้าสร้างอีเว้นต์ระดับประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยงาน “Thailand’s Pride Celebration 2025” ภายใต้แนวคิด “Pride for All” มีผู้ร่วมงานกว่า 1.3 ล้านคนทั่วประเทศ ครอบคลุม Pride Landmark จากเหนือจรดใต้ ดึงดูดทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
แคมเปญ “Summer Grand Sale 2025” ผนึกกำลังค้าปลีกใหญ่ที่สุดในประเทศ สร้างเงินสะพัดมหาศาล และผลักดันไทยสู่การเป็น Global Shopping Destination อย่างแท้จริง
ควบคู่กับการมุ่งมั่นพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ผ่านโครงการ “Better Futures Project 2025” ปีที่ 4 และกิจกรรม “RE Lifestyle Roadshow” ที่เน้นการลดคาร์บอนจากการจัดอีเว้นต์และการเดินทาง โดยใช้รถพุ่มพวงไฟฟ้าเป็นอีเว้นต์เคลื่อนที่ทั่วประเทศ
แนวคิด “Worry-Free Journey” ยังส่งเสริมการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแบบไร้กังวล โดยสามารถชาร์จได้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศตลอดเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นเดือนแห่งสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ บริษัทฯได้รับการจัดอันดับใน 2025 Fortune Southeast Asia 500 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยติดอันดับ 205 จาก 500 บริษัทใหญ่สุดในภูมิภาค และเป็นอันดับ 1 ในกลุ่ม Real Estate จากประเทศไทย
– คว้า 2 รางวัลจาก Retail Asia Awards 2025 ได้แก่ “Eco-Friendly Mall of the Year – Thailand” และ “Integrated Campaign of the Year – Thailand”
– ได้รับ 2 รางวัลจาก Employee Experience Awards Thailand 2025 ได้แก่ “Best In-House Certification Programme” และ “Best Soft Skills Training Programme”
– ติด TOP 50 จาก ASEAN Corporate Governance Scorecard ปี 2024 จากทั้งหมด 569 บริษัท สะท้อนธรรมาภิบาลที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นจากนักลงทุน
ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2568 เซ็นทรัลพัฒนามีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารทั้งหมด 42 โครงการ รวมศูนย์การค้าเซ็นทรัล 40 แห่ง, เอสพละนาด และเมกา บางนา,คอมมูนิตี้มอลล์ 16 โครงการ พื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร
นอกจากนี้ ยังมีอาคารสำนักงาน 10 แห่ง โรงแรม 10 แห่ง และโครงการที่พักอาศัย 44 โครงการ ครอบคลุมทั้งคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ต่างๆ เช่น ESCENT, PHYLL, BELLE GRAND RAMA 9, NINYA, NIYAM, NIRATI และ BAAN NIRADA
“แม้เศรษฐกิจโลกครึ่งปีหลังจะมีความท้าทาย แต่เรามั่นใจในศักยภาพของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของธุรกิจค้าปลีก เราจะเดินหน้าสร้างแลนด์มาร์กใหม่ ขยายศูนย์การค้า และพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความสุขให้กับผู้คน และผลตอบแทนที่มั่นคงให้กับผู้ถือหุ้น”น.ส.นภารัตน์ กล่าว
———————————————————————————————————————————————————–

