HoonSmart.com>>บางกอกสหประกันภัย เปิดกำไรไตรมาส 2 ลดลง 43% ด้านครึ่งปีแรกลดลง 41.44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากต้นทุนสินไหมทดแทนที่เพิ่มขึ้น แม้รายได้จากการลงทุนจะเติบโตแข็งแกร่ง เดินหน้าคุมค่าใช้จ่าย
บริษัทบางกอกสหประกันภัย (BUI)รายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาส 2 ปี 2568 มีกำไรสุทธิตามวิธีส่วนได้เสียอยู่ที่ 41.39 ล้านบาท ลดลง 43.62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังหักภาษีเงินได้จำนวน 10.56 ล้านบาท ซึ่งลดลง 36.66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
กำไรก่อนภาษีอยู่ที่ 51.96 ล้านบาท ลดลง 42.33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากต้นทุนสินไหมทดแทนที่เพิ่มขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว แม้รายได้จากการลงทุนจะเติบโตถึง 45.27% โดยกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.88 บาท
ด้านรายได้จากการประกันภัยสุทธิอยู่ที่ 327.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.89% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ค่าใช้จ่ายในการบริการประกันภัยอยู่ที่ 208.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 39.08% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากค่าสินไหมทดแทนและต้นทุนกรมธรรม์ที่สูงขึ้น
ค่าใช้จ่ายสุทธิจากสัญญาประกันภัยต่ออยู่ที่ 67.28 ล้านบาท ลดลง 16.67% สะท้อนการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ
ส่วนผลการดำเนินงานจากธุรกิจประกันภัยสุทธิอยู่ที่ 52.14 ล้านบาท ลดลง 40.72% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านรายได้จากการลงทุนสุทธิอยู่ที่ 8.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.27%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนช่วยพยุงผลประกอบการ
สำหรับ งวด 6 เดือนแรก บริษัมีกำไรสุทธิตามวิธีส่วนได้เสียอยู่ที่ 46.41 ล้านบาท ลดลง 41.44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังหักภาษีเงินได้จำนวน 11.34 ล้านบาท ซึ่งลดลง 34.59% กำไรก่อนภาษีอยู่ที่ 57.75 ล้านบาท ลดลง 40.21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากต้นทุนสินไหมทดแทนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้รายได้จากการลงทุนจะเติบโตแข็งแกร่งถึง 81.31% โดยกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.03 บาท

ด้านรายได้จากการประกันภัยสุทธิอยู่ที่ 646.53 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 0.44% จากครึ่งปีแรกของปีก่อน,ค่าใช้จ่ายในการบริการประกันภัยอยู่ที่ 468.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.80% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากค่าสินไหมทดแทนและต้นทุนกรมธรรม์ที่สูงขึ้น โดยรวมผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม,ค่าใช้จ่ายสุทธิจากสัญญาประกันภัยต่ออยู่ที่ 122.68 ล้านบาท ลดลง 25.76% สะท้อนการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ด้านผลการดำเนินงานจากธุรกิจประกันภัยสุทธิอยู่ที่ 55.23 ล้านบาท ลดลง 42.59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ รายได้จากการลงทุนสุทธิอยู่ที่ 16.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.31% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ด้านสินทรัพย์รวม ณ สิ้นไตรมาส 2 อยู่ที่ 1,794.82 ล้านบาท ลดลง 2.78% จากปีก่อน โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น 33.74% มาอยู่ที่ 256.07 ล้านบาท,สินทรัพย์จากสัญญาประกันภัยลดลง 50.38% มาอยู่ที่ 93.54 ล้านบาท,เงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลง 17.83% มาอยู่ที่ 34.71 ล้านบาท,หนี้สินรวมลดลง 5.91% มาอยู่ที่ 658 ล้านบาท โดยหนี้สินจากสัญญาประกันภัยลดลง 5.06% และหนี้สินอื่นลดลง 8.20%,ส่วนของเจ้าของลดลง 0.87% มาอยู่ที่ 1,130.80 ล้านบาท
