PTTGC ขาดทุน 3,616 ลบ.Q2/68 EBITDA ดีขึ้น เจอสต๊อก-ตีค่าสินค้าคงเหลือ

HoonSmart.com>>”พีทีที โกลบอล เคมิคอล” (PTTGC) เผยผลงานไตรมาส 2/68 ขาดทุน 3,616 ล้านบาท จากสต๊อกน้ำมัน ปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (NRV) สุทธิเป็นขาดทุน 1,891 ล้านบาท  มีรายได้จากการขายรวม 133,381 ล้านบาทใกล้เคียงไตรมาสแรก Adjusted EBITDA อยู่ที่ 6,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายและมุ่งเน้นประสิทธิภาพ บล.ทรีนีตี้แนะถือ คงเป้าหมาย 22.70 บาท คาดครึ่งปีหลังฟื้นแรง ทั้งปีพลิกมีกำไร

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) รายงานผลงานงวดไตรมาสที่ 2/2568 ขาดทุนสุทธิ 3,616.14 ล้านบาท ขาดทุนหุ้นละ 0.85 บาท พลิกจากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,845.82ล้านบาทหรือ 0.41 บาทต่อหุ้น รวมครึ่งปีนี้ขาดทุนสุทธิ 6,183.33 ล้านบาทหรือ ขาดทุนหุ้นละ 1.47 บาท พลิกจากที่มีกำไรสุทธิ 1,239.72 ล้านบาท หรือกำไรหุ้นละ 0.27 บาทจากช่วงเดียวกันปีก่อน

สาเหตุที่ทำให้ขาดทุนในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากบริษัทฯ รับรู้รายการพิเศษจากปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้จากการเปลี่ยนแปลงราคาตามสภาวะตลาด ได้แก่ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน (Stock loss) และการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (NRV) สุทธิเป็นขาดทุน 1,891 ล้านบาท ขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ 32 ล้านบาท กำไรสุทธิจากอัตรา
แลกเปลี่ยนและตราสารอนุพันธ์ทางการเงินรวม 370 ล้านบาท รวมถึงบริษัทฯ รับรู้กำไรพิเศษจากผลต่างสุทธิจากการสิ้นสุดการเป็นบริษัทย่อย (Deconsolidation) ของ Vencorex France และ Vencorex TDI 1,499 ล้านบาท ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุน 17 ล้านบาท ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน

ขณะที่ผลการดำเนินงานดีขึ้น ในไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 133,381 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2568 โดยปรับขึ้นจากราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมตามทิศทางตลาดโลกหักกลบด้วยราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ยังคงมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอก ทั้งความกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ประกอบกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศด้วยการใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้ของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศคู่ค้าซึ่งส่งผลกดดันต่อต้นทุนและความต้องการในการบริโภค

อย่างไรก็ตามรายได้จากการขายลดลง 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าจากการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบที่ส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มปิโตรเลียมสำเร็จรูปปรับตัวลดลง

บริษัทฯ รายงาน Adjusted EBITDA อยู่ที่ 6,083 ล้านบาทปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 13%จากมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายและมุ่งเน้นประสิทธิภาพของบริษัทฯ ที่ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง กลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปรับตัวดีขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปรับเพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ทำให้ GRM ปรับเพิ่มจาก 3.4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 1 เป็น 5.3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 2  กลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์พาราไซลีนปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน กอปรกับส่วนต่างผลิตภัณฑ์ผล
พลอยได้อย่างคอนเดนเสทรีซิดิว แนฟทาและก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ปรับตัวดีขึ้นเป็นหลักหักกลบด้วยส่วนต่างผลิตภัณฑ์เบนซีนที่ปรับตัวลดลงในไตรมาสนี้

ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และโพลิเมอร์ปรับลดลง เนื่องจากโรงโอเลฟินส์หน่วยที่2/1 ได้หยุดซ่อมบำรุงในไตรมาสนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมีความได้เปรียบด้านต้นทุนของโรงโอเลฟินส์ โดยบริษัทฯ ได้รับปริมาณก๊าซอีเทนที่ใช้ในการผลิตด้วยสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ด้านอัตรากำลังการผลิตของโรงโอเลฟินส์เฉลี่ยอยู่ที่ 80% ด้านราคาของกลุ่มผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ปรับลดลงจากไตรมาสก่อนเล็กน้อยท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ทั้งนี้ มาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศสหรัฐอเมริกาส่งผลกรส่งผลกระทบต่อความกังวลของอุปสงค์ปลายทางของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รวมถึงอุปทานส่วนเกินที่ทำให้ผู้ผลิตในตลาดยังควบคุมระดับอัตรากำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง สำหรับผลประกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษปรับตัวดีขึ้นโดยหลักจากการที่ VencorexFrance และ Vencorex TDI เข้าสู่กระบวนการชำระบัญชีและสิ้นสุดการเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.2568

นักวิเคราะห์บล.ทรีนีตี้ คงคำแนะนำ เพียง ถือ และคงราคาเป้าหมายที่ 22.70 บาท อิง PBV – 2SD ที่ 0.39 เท่า โดย 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับขึ้นกว่า 20% จากแนวโน้มสงครามการค้าที่ดูผ่อนคลายลง PTTGC รายงานขาดทุนในไตรมาสที่ 2 ที่  3,600 ล้านบาท เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด  ซึ่งมีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน  1,900 ล้านบาท   และมีกำไรพิเศษจากการ Deconsolidation ของ Vencorex ประมาณ 1,500 ล้านบาท Core Operation ยังเป็นขาดทุนราว 3,900 ล้านบาท

แนวโน้มผลประกอบการของ PTTGC ในช่วงครึ่งหลังปี 2568 คาดว่าจะฟื้นตัวจากช่วงครึ่งปีแรกอย่างมีนัยสำคัญ โรงงานกลับมาจากช่วง Turnaround, GRM ยังอยู่ในระดับสูงจากความต้องการน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตา ไม่มีขาดทุนสต็อกน้ำมันขนาดใหญ่ นอกจากนี้บริษัทยังมีโอกาสรับรู้กำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก ซึ่งจะช่วยชดเชยผลขาดทุนสะสมและหนุนกำไรให้กลับมาเป็นบวกในช่วงปลายปี คาดทั้งปีนี้ EBITDA 39,448 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,418 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.31 บาท คาดจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.13 บาท อัตราผลตอบแทน 1%

ด้านราคาหุ้น PTTGC ปรับตัวขึ้น  24.50 บาท ก่อนปิดที่ 24 บาท – 0.10 บาท มูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น  436.30 ล้านบาท