GC ผนึก PE LNG ต่อยอดโรงโอเลฟินส์ ใช้พลังงานเย็นจาก LNG หนุนเป้า Net Zero

HoonSmart.com>>”พีทีที โกลบอล เคมิคอล” (GC) เซ็นสัญญากับ “พีอี แอลเอ็นจี” (PE LNG) บริษัทร่วมทุนของพีทีที แอลเอ็นจี และกฟผ. ร่วมพัฒนาโครงการใช้ประโยชน์จากพลังงานความเย็นของก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สำหรับโรงผลิตโอเลฟินส์ของ GC เพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2570 

บริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล (GC) ผู้นำในธุรกิจพลาสติกและเคมีภัณฑ์ระดับสากล เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต และ บริษัท พีอี แอลเอ็นจี (PE LNG) ซึ่งเป็นธุรกิจร่วมทุนระหว่าง บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี   (PTTLNG) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงนามในสัญญาความร่วมมือโครงการใช้ประโยชน์จากพลังงานความเย็นของก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สำหรับโรงผลิตโอเลฟินส์ของ GC ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตอย่างเป็นรูปธรรม

นายนรินทร์ เผ่าวณิช ประธานกรรมการ บริษัท พีอี แอลเอ็นจี  กล่าวว่า  การลงนามสัญญาโครงการนี้ ระหว่าง GC และ PE LNG เป็นโครงการที่ใช้พลังงานความเย็นจาก LNG มาลดต้นทุนในกระบวนการผลิต และใช้ทรัพยากรอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือของทั้งสององค์กร จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตอบสนองเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ของประเทศต่อไป

นายสมชาย ระมาศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีอี แอลเอ็นจี  กล่าวว่า โครงการนี้ตั้งอยู่บริเวณสถานีแอลเอ็นจี มาบตาพุดแห่งที่ 2 ณ บ้านหนองแฟบ จังหวัดระยอง ซึ่งจะเป็นการส่งพลังงานความเย็นจาก LNG ผ่านสารตัวกลาง ไปยังโรงงานผลิตโอเลฟินส์ของ GC โดยได้รับอนุมัติอัตราค่าความเย็นจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2567 และคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2570

“โครงการนี้เป็นความร่วมมือในกลุ่ม ปตท. และ กฟผ. ที่ช่วยต่อยอดธุรกิจด้วยการใช้ประโยชน์จากพลังงานความเย็นในภาคอุตสาหกรรม ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตอบสนองเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ได้ในอนาคต” นายสมชาย กล่าว

นายทศพร บุณยพิพัฒน์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล  กล่าวว่า โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ภายในกลุ่ม ปตท. สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตควบคู่ไปพร้อมกับความยั่งยืน ผ่านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้เทคโนโลยีสะอาด นำพลังงานความเย็นจาก LNG มาใช้ในโรงงานโอเลฟินส์ของ GC

“เรามีลักษณะเฉพาะที่สามารถนำพลังงานความเย็นนี้มาใช้ประโยชน์ได้ และสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 60,000 ตันต่อปี  หวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อยอดนวัตกรรมที่สร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศต่อไป”นายทศพรกล่าว

สำหรับ LNG คือ ก๊าซธรรมชาติที่ถูกลดอุณหภูมิลงมาที่ -160 องศาเซลเซียสเพื่อเปลี่ยนสถานะจากก๊าซเป็นของเหลว ทำให้ขนส่งและจัดเก็บได้สะดวก แต่เมื่อนำกลับมาใช้งานในรูปแบบก๊าซอีกครั้ง ต้องผ่านกระบวนการเปลี่ยนสถานะ LNG จากของเหลวให้กลับเป็นสถานะก๊าซ ดังนั้นจะมีพลังงานความเย็นจำนวนมากที่เหลือใช้ โครงการนี้จึงนำนวัตกรรมมาช่วยบริหารจัดการความเย็นดังกล่าวให้เกิดมูลค่า แทนที่จะสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ถือเป็นการต่อยอดการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าเพื่อความยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรม