IMF-WBG เลือกไทยประชุมใหญ่ปี’69 โอกาสทองศก.-การลงทุนจากทั่วโลก

HoonSmart.com>>กองทุนการเงินระหว่างประเทศ-กลุ่มธนาคารโลก เลือกไทยในการจัดประชุม IMF-WBG Annual Meetings 2026 ดึงผู้นำด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการพัฒนาจากกว่า 191 ประเทศ ร่วมถกประเด็นเร่งด่วน โอกาสทองทางเศรษฐกิจ-การลงทุนจากทั่วโลก

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และกลุ่มธนาคารโลก (WBG) องค์กรหลักที่ขับเคลื่อนเสถียรภาพและการพัฒนาเศรษฐกิจโลก เลือกประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของทั้งสององค์กร” IMF-WBG Annual Meetings 2026″ เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 35 ปี   โดยมี กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพหลัก ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 12 – 18 ตุลาคม พ.ศ. 2569

การประชุมครั้งนี้ จะมีผู้นำด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการพัฒนาจากกว่า 191 ประเทศทั่วโลก จะมารวมตัวกันเพื่อหารือประเด็นสำคัญและเร่งด่วนของเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่การเติบโตทางเศรษฐกิจ เสถียรภาพทางการเงิน ไปจนถึงการลดความยากจนและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

สะท้อนถึง ศักยภาพทางเศรษฐกิจและการเงินไทย ที่มีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความมั่นคงทางการเงินและนโยบายที่เปิดกว้างต่อการลงทุน

มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านการเดินทางคมนาคมที่ทันสมัย โรงแรมที่พักระดับมาตรฐาน และที่สำคัญคือ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีสิ่งอำนวยความสะดวก และเคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสำคัญอย่าง APEC 2022 มาแล้ว

รวมถึงอดีต ไทยเคยเป็นเจ้าภาพในปี 2534 แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์และความสามารถในการจัดการประชุมระดับนานาชาติขนาดใหญ่ได้อย่างราบรื่น

โอกาสทองทางเศรษฐกิจ-การลงทุน

การที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพ IMF-WBG Annual Meetings 2026 ไม่ใช่เป็นเพียงสิ่งเชิดหน้าชูตาให้กับประเทศ แต่คือ “โอกาสทอง” ที่จะสร้างผลเชิงบวกในหลากหลายมิติ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น

1. ยกระดับภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น: การเป็นเจ้าภาพงานระดับโลกเช่นนี้ เป็นการแสดงศักยภาพของประเทศไทยในสายตาประชาคมโลก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการพัฒนา ตอกย้ำความพร้อมและความสามารถในการเป็นศูนย์กลางการประชุมและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาค

2. กระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น: คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 15,000 – 18,000 คน จาก 191 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะก่อให้เกิดการใช้จ่ายทั้งในภาคการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร การขนส่ง และธุรกิจบริการอื่น ๆ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

3. ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนและสร้างความร่วมมือ: เวทีนี้เปิดโอกาสให้ประเทศไทยได้พบปะกับนักลงทุน ผู้กำหนดนโยบาย และผู้บริหารระดับสูงจากทั่วโลก นำไปสู่การเจรจาทางการค้า การลงทุน และการสร้างความร่วมมือใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว

4. เผยแพร่ Soft Power ไทยสู่สายตาโลก: นี่คือโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะได้นำเสนอเอกลักษณ์และความงดงามของวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่ประจักษ์ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะการแสดง อาหารไทยขึ้นชื่ออย่างแกงมัสมั่น (ที่ CNN Travel ยกให้เป็นอันดับ 1 ของโลก) ผ้าไทยอันวิจิตร และศิลปวัฒนธรรมไทยซึ่งจะเป็นการนำเสนอ Soft Power ที่จะช่วยสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนไทยมากขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ ไทยจะมีการออกแบบโลโก้โลโก้การประชุม IMF-WBG Annual Meetings 2026 โดยคนไทย นำลายเหรียญพดด้วงและลายไทยมาผสมผสานลายประจำยามและพระแสงจักร สื่อถึงความงดงาม วัฒนธรรม และอำนาจมั่นคงของไทยในฐานะเจ้าภาพระดับโลก  ใช้งานกราฟิกแนวคิดจักสาน สะท้อน Soft Power ไทย

แบบตัวอักษร “THAILAND” ตกแต่งด้วย ICON ลายไทย แสดงถึงความทันสมัยและความภาคภูมิใจในความเป็นไทย พร้อมเปิดรับความร่วมมือระหว่างประเทศ
แนวคิดสร้างสรรค์นี้สะท้อนอัตลักษณ์อันแข็งแกร่งของไทยในเชิงศิลป์และวัฒนธรรม  พร้อมประกาศบทบาทของไทยบนเวทีโลกด้วยความงามคู่ความร่วมสมัย