HoonSmart.com>>รมว.คลัง เผยไทยยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมให้สหรัฐแล้ว ชี้แจงยังอยู่ในขั้นการเจรจาเปิดเผยไม่ได้ ปฎิเสธจะถูกเก็บอัตราภาษี 18-36% สำนักข่าวต่างประเทศเผยเสนอหั่นเกินดุลการค้าลง 70% ใน 5 ปี จะถึงจุดสมดุลใน 7-8 ปี พยายามต่อรองภาษีที่ 10% หากได้ 10-20% ก็ยังยอมรับได้ สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ คือข้อตกลงที่แย่ที่สุดเทียบเพื่อนบ้าน
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าไทยได้ยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมเพื่อเจรจามาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐแล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ (6 ก.ค.68) ได้ประชุมกับคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐฯ เพื่อหารือการปรับปรุงข้อเสนอตามที่ได้ประชุมกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) และไม่เป็นความจริงที่ไทยจะถูกจัดเก็บอัตราภาษีที่ 18-36% เพราะทีมประเทศไทยยังไม่ได้ข้อสรุปว่าอัตราภาษีที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บจากประเทศไทยนั้นจะอยู่ที่เท่าไร
รองนายกฯและรมว.คลังยืนยันว่าคณะทำงานฯ ยึดผลประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นสำคัญ ข้อตกลงจะต้อง Win-win และยั่งยืนกับทั้งสองประเทศ ผลลัพธ์ที่คาดหวังก็คือการทำให้ภาคเศรษฐกิจ ภาคประชาชนของประเทศไทยยังคงแข่งขันได้บนเวทีโลก
“การที่ทางสหรัฐฯ มาคุยกับทีมประเทศไทย เป็นสัญญาณที่ชี้ไปในทางบวก สหรัฐฯ ยังเปิดโอกาสทำงานร่วมกับเรา เพื่อหาจุดลงตัวของทั้ง 2 ประเทศ และหลังจากที่ได้พูดคุยกับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) ฯลฯ แล้ว ทีมไทยแลนด์ จะได้จัดเตรียมข้อเสนอที่ปรับใหม่กลับไปให้สหรัฐฯ ก่อนวันที่ 9 ก.ค.นี้ ซึ่งหวังว่า สหรัฐฯ จะนำไปพิจารณาจัดทำอัตราภาษีที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทย” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ระบุ
สำหรับการคาดการณ์เหตุการณ์หลังวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งเป็นเส้นตายของทางสหรัฐฯ นั้น เชื่อว่าการทำงานจะยังต้องคุยกันต่อเนื่อง เพื่อได้ออกมาเป็นตัวสัญญาฉบับสุดท้าย และในหลาย ๆ ประเทศเอง ก็มีกระบวนการที่จะต้องอนุมัติกันภายในต่อเนื่อง ซึ่งหวังว่าในช่วงนั้นจะได้อัตราภาษีที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทยต่อเนื่อง จนกว่าการเจรจาลงรายละเอียดจะแล้วเสร็จ
ทางด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ไทยกำลังพยายามครั้งสุดท้ายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีส่งออก 36% โดยเสนอให้ขยายการเข้าถึงตลาดสำหรับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ รวมถึงเพิ่มการซื้อพลังงานและเครื่องบินโบอิ้ง ข้อเสนอล่าสุดของรัฐบาลไทยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นปริมาณการค้าทวิภาคีและลดดุลการค้า 46,000 ล้านดอลลาร์ของไทยกับสหรัฐฯ ลง 70% ภายใน 5 ปี และจะถึงจุดสมดุลภายใน 7-8 ปี นายพิชัย กล่าวกับบลูมเบิร์กนิวส์ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเร็วกว่าคำมั่นสัญญาที่จะขจัดช่องว่างใน 10 ปีภายใต้ข้อเสนอที่เสนอโดยไทยก่อนหน้านี้
นายพิชัยคาดว่าจะยื่นข้อเสนอแก้ไขก่อนวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดการพักการขึ้นภาษีนำเข้า 90 วันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศ หากได้รับการยอมรับ ประเทศไทยจะสามารถยกเว้นภาษีนำเข้าหรืออุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าส่วนใหญ่ได้ทันที ในขณะที่ค่อยๆ ยกเลิกข้อจำกัดสำหรับสินค้ากลุ่มที่เล็กกว่า
การแก้ไขดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายพิชัยได้ประชุมกับนายจามีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และนายไมเคิล ฟอลเคนเดอร์ รมช.คลังของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในการเจรจาเกี่ยวกับภาษีศุลกากรระดับรัฐมนตรีครั้งแรก
เนื่องจากสินค้าของสหรัฐฯ จำนวนมากที่สามารถเข้าถึงตลาดของไทยได้มากขึ้นนั้นมีปริมาณน้อยในประเทศ จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรหรือผู้ผลิตในท้องถิ่น นายพิชัยกล่าว
“สิ่งที่เรานำเสนอให้พวกเขานั้นเป็นข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน สหรัฐฯ สามารถค้าขายกับไทยได้มากขึ้น และจะได้มีโอกาสปรับปรุงกระบวนการของไทยและลดขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน”นายพิชัยกล่าว
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่กำลังแข่งขันกันเพื่อสรุปข้อตกลงกับสหรัฐฯ และหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรที่สูง หากไม่สามารถลดภาษีศุลกากรกับตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของไทยได้ อาจส่งผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าลดลงอย่างรวดเร็ว และเศรษฐกิจของไทยที่คาดการณ์ไว้จะลดลงถึง 1% เวียดนามซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านบรรลุข้อตกลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้า 20% และภาษีนำเข้าสินค้าที่ถือเป็นสินค้าขนส่งทางเรือ 40%
นายพิชัยกล่าวว่าไทยพยายามกำหนดอัตราภาษีที่ดีที่สุดไว้ที่ 10% และเสริมว่าแม้จะกำหนดไว้ที่ 10-20% ก็ยังถือว่ายอมรับได้ สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้คือไทยจะได้รับข้อตกลงที่แย่ที่สุดเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในภูมิภาค
