ธปท.เข้มธุรกิจเช่าซื้อ-ลีสซิ่งกว่า 3 พันราย จ่อคุมดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียมแทนสคบ.

HoonSmart.com>>ธปท. กระโดดเข้ากำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อ การให้เช่าแบบลีสซิ่ง รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ทั่วประเทศ พบแห่เปิดกว่า 3,000 ราย ยอดธุรกรรมคงค้าง 1.6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10% ของยอดหนี้ครัวเรือน มีนัยต่อระบบเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง พุ่งเป้าคุมดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียม, การดูแลเรื่องการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม,การให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม การรายงานตัว&ข้อมูลธุรกรรม ด้านหุ้น SAWAD ร่วงต่อ 2.38%

น.ส.พีรจิต ปัทมสูต ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 2568 เป็นต้นไป ธปท. จะเข้ากำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อ และการให้เช่าแบบลีสซิ่ง รถยนต์และรถจักรยานยนต์ อย่างเป็นทางการ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อต้องการยกระดับมาตรฐานการให้บริการ และเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรม พร้อมช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจการเงินด้วย ในเรื่องอัตราดอกเบี้ยนั้น ปัจจุบันอยู่ในการดูแลของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งจะมีการทบทวนทุก 3 ปีให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยจะครบ 3 ปีในเดือน ต.ค.2568   ดังนั้นดอกเบี้ยในรอบใหม่ จะเข้ามาอยู่ในการดูแลของ ธปท.

นอกจากนี้ยังพบว่ามีนิติบุคคลที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในการประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อ ลีสซิ่งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ ประมาณกว่า 3,000 ราย แบ่งเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ที่มีพอร์ตสินเชื่อรวมเกินกว่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ประมาณ 60 ราย ส่วนผู้ประกอบการขนาดกลาง ที่มีพอร์ตสินเชื่อรวมประมาณ 100-1,000 ล้านบาท มีประมาณ 150 ราย และที่เหลือเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก ที่มีพอร์ตสินเชื่อรวมต่ำกว่า 100 ล้านบาท

“ธุรกิจให้บริการเช่าซื้อและลีสซิ่ง มีนัยต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม และมีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง จากข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นปี 2567 มียอดธุรกรรมคงค้างที่ระดับ 1.6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10% ของยอดหนี้ครัวเรือนของประเทศ ซึ่ง 1 ใน 3 ของยอดธุรกรรมคงค้าง  เป็นการให้บริการโดยผู้ประกอบธุรกิจที่ยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องร้องเรียนการให้บริการเข้ามายัง ธปท.เป็นจำนวนมาก เช่น การให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนแก่ลูกค้า, การปรับโครงสร้างหนี้ที่ไม่สอดคล้องกับรายได้, การคิดค่าธรรมเนียมที่ไม่เป็นธรรม  “น.ส.พีรจิตกล่าว

จึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้ธุรกิจให้เช่าซื้อ ลีสซิ่ง รถยนต์และรถจักรยานยนต์ เข้ามาอยู่ในการกำกับดูแลของ ธปท. ซึ่งจะอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้รับบริการทางการเงินที่เป็นธรรม และได้รับข้อมูลที่โปร่งใส เพียงพอต่อการตัดสินใจใช้บริการ  อีกทั้งเพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจ การเงิน และการบริหารจัดการหนี้ครัวเรือนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

ในระหว่างที่กฎหมายยังไม่มีผลบังคับนี้ ธปท.ได้เปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจ มาลงทะเบียนเพื่อรายงานตัวกับ ธปท.เพื่อให้พร้อมรองรับการกำกับดูแล และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ ธปท.ในอนาคต ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจ จะต้องมีการรายงานตัว, ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการประกอบธุรกิจ และการคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งการรายงานข้อมูลที่จำเป็น และจะมีบทลงโทษตาม พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 ในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตาม หรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ (โทษปรับ จำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ) ส่วนการตรวจสอบกรณีที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ธปท.จะมีการตรวจติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนบริษัทขนาดเล็ก จะใช้เครื่องมือเข้าไปช่วยในการสุ่มตรวจ เช่น การใช้ Social Listening ดูจากเรื่องร้องเรียน ถ้าเห็นสัญญาณก็จะเข้าไปตรวจแต่ไม่เข้าไปทุกแห่ง

ด้านตลาดหุ้นวันที่ 12 มิ.ย.2568 ดัชนีหุ้นตลาดหลักทรัพย์ ปิดที่ 1,128.62  จุด ลดลง -12.96 จุดหรือ -1.14% มูลค่าการซื้อขาย
32,483.12 ล้านบาท โดยหุ้นกลุ่มเช่าซื้อและลีสซิ่งปรับตัวลง หุ้น SAWAS ทำนิวโลว์ใหม่ ปิดที่ระดับต่ำสุด 16.40 บาท -0.40 บาทหรือ -2.38% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 551.56 ล้านบาท จากช่วงเช้าราคาปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 17.20 บาท รับข่าว น.ส.ดวงใจ แก้วบุตตา เอ็มดี ใช้เงินจำนวน 20 ล้านบาท ซื้อจำนวน 1.2 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 16.86 บาทเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2568ที่ผ่านมา

 

 
 
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–