สินเชื่อที่อยู่อาศัย-สินเชื่อเอสเอ็มอี พ่นพิษฉุดอัตราการขยายสินเชื่อ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เหลือ 4-5% เป็นครั้งแรกนับจากตั้งธนาคารมา 13 ปี เผยที่ผ่านมาโตเลขสองหลักมาตลอด ปี 2562 ปรับแผนรุกลูกค้ารายใหญ่-กลาง หวังสินเชื่อโต 5-6% พร้อมปรับลุคเป็น “mark Symbolic of CHANGE”
นางศศิธร พงศธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG บริษัทโฮลดิ้ง ผู้ถือหุ้นใหญ่ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า อัตราการเติบโตสินเชื่อรวมของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในปี 2561 คาดว่าจะอยู่ที่ 4-5% จากปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกที่สินเชื่อของธนาคารเติบโตต่ำกว่า 10%
“วันที่ 19 ธ.ค. นี้ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จะมีอายุครบ 13 ปี ซึ่งที่ผ่านมาสินเชื่อมีอัตราการเติบโตเป็นเลขสองหลักมาตลอด แต่ปีนี้จะเป็นปีแรกที่เติบโตแค่ 4-5% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของสินเชื่อบ้านและสินเชื่อเอสเอ็มอี เนื่องจากธนาคารเพิ่มความระมัดระวังในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น” นางศศิธร กล่าว
นางศศิธร กล่าวอีกว่า ธนาคารเริ่มเห็นสัญญาณของคุณภาพสินเชื่อที่อยู่อาศัยลดลงมาตั้งแต่ต้นปี เพราะเห็นพฤติกรรมของผู้กู้รายย่อยที่มีภาระหนี้ค่อนข้างสูง โดยเฉลี่ยมีบัตรเครดิตคนละ 4 ใบ ขณะที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น
ทั้งนี้ ในปัจจุบันยอดสินเชื่อคงค้างของสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเอสเอ็มอี อยู่ที่ประเภทละ 2.4 หมื่นล้านบาท หรือ 15% ลดลงจากสิ้นปี 2560 ที่ 17-18% สินเชื่อรายใหญ่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 70%
สำหรับแผนแผนงานธนาคารปี 2562 อยู่ระหว่างจัดทำและเสนอประชุมคณะกรรมการบริหารภายในเดือน ธ.ค.2561 โดยเบื้องต้นตั้งเป้าสินเชื่อรวมเติบโต 5-6% โดยเน้นการให้สินเชื่อลูกค้ารายกลางและรายใหญ่ ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัว Trade Finance และ บริการรับชำระเงินจาก E-Wallet ผ่าน QR Code ในไตรมาส 1 ปี 2562 และควบคุมสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่เกิน 2%
พร้อมกันนี้ ทางกลุ่มการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปรับลุคเป็น “mark Symbolic of CHANGE” ภายใต้ คอนเซ็ปต์ “We Are Family” ที่เน้นความสุขุม ความอบอุ่นและเป็นกันเอง ประเดิม 2 สาขาแรกที่พาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ และเทอร์มินอล 21 พัทยา มุ่งตอบโจทย์พร้อมสร้าง Touch Point มัดใจลูกค้า
“ธนาคารได้เดินหน้ารุกบริการ Wealth Management, Digital Banking และ Trade Finance อย่างต่อเนื่องโดยเป็นความร่วมมือกับ CTBC Bank ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญบริการดังกล่าว” นางศศิธร กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มการเงิน CTBC Holding โดยมี CTBC Bank ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนอันดับ 1 ของไต้หวัน มีสินทรัพย์ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2561 รวมกว่า 6 ล้านล้านบาท และ 4.2 ล้านล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเรื่อง Wealth Management, Digital Banking และ Trade Finance เป็นอย่างดี จึงเป็นการผสานความร่วมมือและความเชี่ยวชาญของทั้งสององค์กร ในการเสริมสร้างความสามารถด้านการแข่งขัน เพื่อยกระดับการให้บริการของกลุ่มการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ให้เป็นมาตรฐานสากลและตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา กลุ่มการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีการพัฒนาในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่ออำนวยความสะดวก และยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ และตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกค้า เช่น การซื้อขายหุ้น การซื้อขายกองทุน และการเปิดบัญชีใหม่ผ่าน Application LH Bank M Choice
แม้ระบบธนาคารมีแนวโน้มที่จะลดจำนวนสาขา ซึ่ง LH Bank เห็นว่าสาขา LH Bank ยังมีความจำเป็นที่จะให้คำปรึกษากับลูกค้า ซึ่งการให้บริการ Digital Banking ไม่สามารถให้บริการนี้ได้ เราจึงได้ปรับกระบวนการให้บริการ โดยให้สาขาเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) เพื่อให้คำปรึกษาด้านการเงิน การลงทุน กองทุน หุ้น เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนที่พึงพอใจ นอกจากนี้เราได้พัฒนาศักยภาพของพนักงานให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญมากขึ้น สำหรับการปรับลุคในครั้งนี้จะช่วยสร้างความผูกพันระหว่างลูกค้ากับกลุ่มการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งจะส่งผลต่อการสร้างฐานลูกค้าได้เป็นอย่างดี ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่เข้ามาช่วยในการขยายฐานลูกค้า ให้มีการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว ” นางศศิธร กล่าวสรุปปิดท้าย