ตลท. ขีดเส้น FVC 10 มิ.ย.นี้ … แจงซื้อ “นิคมลำพูน” มูลค่า 1,161 ลบ.

HoonSmart.com >> ตลาดสั่ง FVC ชี้แจงกรณีซื้อ “นิคมลำพูน” มูลค่าโครงการ 1,161 ล้านบาท ทั้งที่สินทรัพย์รวมบริษัทมี 1,233 ล้านบาท ภายใน 10 มิ.ย.นี้ 

วิจิตร เตชะเกษม

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ FVC ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมกรณีที่บริษัทจะได้มาซึ่งหุ้นสามัญของบริษัท เวิลด์ อินดัสเทรียล
เอสเตท จำกัด (WIE) เพื่อพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ (ลำพูน) ซึ่งมีลักษณะธุรกิจและความเสี่ยงแตกต่างจาก
ธุรกิจในปัจจุบัน มูลค่าลงทุนและพัฒนาโครงการ 1,161 ล้านบาท ขณะที่สินทรัพย์รวมของบริษัทเท่ากับ 1,233 ล้านบาท

ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น (FVC) มีมติเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ WIE  เพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรมลำพูน  จำนวน 2 เฟส ประมาณ 703 ไร่ มูลค่าเงินลงทุนและพัฒนาโครงการเท่ากับ 1,161 ล้านบาท

แบ่งเป็นการซื้อหุ้น 370 ล้านบาท และเงินลงทุนในโครงการนิคม เช่น ระบบสาธารณูปโภคเฟส 2 จำนวน 730.50 ล้านบาท รวมทั้งดอกเบี้ยจากการกู้ยืม 60.50 ล้านบาท ขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์อยู่ที่ 94.15% แหล่งเงินทุนมาจากการเพิ่มทุนโดยจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม (RO)

เนื่องจากการลงทุนดังกล่าวเป็นรายการที่มีขนาดใหญ่ ใช้เงินลงทุนสูง มีลักษณะธุรกิจและความเสี่ยงแตกต่างจากธุรกิจปัจจุบันของบริษัท

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมและเผยแพร่ผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2568 โดยความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบ ให้ชี้แจงภายในวันที่17 มิถุนายน 2568 รายละเอียดดังนี้

1. รายละเอียดแผนพัฒนานิคมลำพูน ทั้ง 2 เฟส กรอบระยะเวลาดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ และความครบถ้วนเพียงพอของเงินทุนที่จะใช้พัฒนาโครงการ รวมถึงแหล่งเงินทุน และจำนวนเงินลงทุนที่จะใช้พัฒนา เฟส 1 ซึ่งมีที่ดินรอการพัฒนาหรืออาจต้องปรับปรุงเพิ่มเติมรวม 82 ไร่

ทั้งนี้  บริษัทเปิดเผยว่า ในกรณีที่นิคมลำพูน  เฟส 2 เป็นไปตามแผน บริษัทมีนโยบายพัฒนาคลังสินค้า นั้น ขอทราบเงื่อนไขที่บริษัทจะพัฒนาคลังสินค้าดังกล่าว

2. บริษัทจะเพิ่มทุน 1,500 ล้านบาท โดยเงินส่วนใหญ่นำไปลงทุนและพัฒนานิคมลำพูน  ส่วนที่เหลือจะนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการสนับสนุนกลุ่มลูกค้าภายในนิคมอุตสาหกรรม 219.50 ล้านบาท และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจเดิมของบริษัท 180 ล้านบาท

ขอให้อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เงินทุนหมุนเวียนทั้ง 2 รายการดังกล่าว ความจำป็นและประโยชน์ต่อการทำนิคม ฯ

3.  กรณีที่บริษัทไม่สามารถระดมทุนจาก RO ได้ตามกำหนด บริษัทจะกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน ประมาณ 590.50 ล้านบาท หรือพิจารณาจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม เช่น การหาผู้ร่วมลงทุน หรือออกหุ้นเพิ่มทุนโดย จัดสรรให้บุคคลในวงจำกัด

ขอทราบแผนและระยะเวลาการกู้ยืมเงิน รวมทั้งการพิจารณาระดมทุนจากแหล่งอื่น เพื่อให้เพียงพอต่อการดำเนินโครงการมูลค่า 1,161 ล้านบาท รวมถึงการพิจารณาดังกล่าวจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงมูลค่าโครงการหรืออ านาจควบคุมของบริษัทหรือไม่ อย่างไร

4. บทบาทและความเห็นของคณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบในการดูแลความเสี่ยงของการซื้อธุรกิจขนาดใหญ่ ดังนี้

4.1) การตรวจสอบ (Due Diligence) สินทรัพย์ที่บริษัทจะได้มา อาทิ ผลการดำเนินงาน ฐานะการเงิน ประเด็นทาง
กฎหมาย ระบบควบคุมภายใน

4.2) การเตรียมเงินทุนให้เพียงพอส าหรับธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตามเวลาที่กำหนด
และแนวทางดำเนินการ หากเงินทุนไม่เพียงพอ

4.3) การปฏิบัติตามกฎหมายและเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น การคำนวณขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์

4.4) นโยบายการทำธุรกิจในอนาคตของบริษัท รวมถึงการกำกับดูแล และมาตรการป้องกันความเสี่ยงสำหรับธุรกิจใหม่