HoonSmart.com>>ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิด ไตรมาสแรก สินเชื่อเพื่อความยั่งยืนแตะ 1 หมื่นล้านบาท จากเป้าทั้งปี 2.8 หมื่นล้านบาท มั่นใจโตต่อเนื่อง วางปี’73 ยอดสะสม 2.5 แสนล้านบาท ด้านสินเชื่อรวมลูกค้าธุรกิจขนาดใหญฯโตตามเป้า 5-7%
นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) เปิดเผยว่า ไตรมาส 1 ปี 2568 การปล่อยสินเชื่อ และ สนับสนุนทางการเงินเพื่อออกตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน แตะ 1 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 2.8 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ ยอดสะสมถึงปี 2567 อยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท และเป้าหมายปี 2573 วางไว้ที่ 2.5 แสนล้านบาท
“สินเชื่อ และตราสารเพื่อความยั่งยืน รวมถึง ESG ยังคงเติบโตต่อเนื่อง แม้จะมีความเสี่ยงใหม่ๆ เกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากเทรนด์โลกที่มุ่งสู่ธุรกิจสีเขียว ซึ่งธุรกิจขนาดใหญ่กำลังปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ความยั่งยืน โดยเฉพาะธุรกิจพลังงาน ที่เริ่มหันสู่พลังงานทดแทน ธุรกิจปิโตรฯ และที่กำลังมาแรงคือ ธุรกิจเกษตร”นายประกอบ กล่าว
นายประกอบ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ปี 2568 ตั้งเป้าเติบโต 5-7% โดยไตรมาสแรกยังเติบโตตามเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน สินเชื่อที่เกิดจากการปรับโครงสร้างทางการเงิน สินเชื่อโครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มธุรกิจพลลังงาน นิคมอุตสาหกรรมที่มีการเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น กลุ่มเฮลท์แคร์
ปี 2568 ยังคงเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าย โดยเฉพาะไทยซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนด้านการลงทุนจากต่างประเทศและปัจจัยภายนอก เช่น ความผันผวนของตลาดโลก และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนอีกทีแล้วจะมาดูว่าจะปรับเป้าหมายสินเชื่อใหม่ไหม
“ทางแบงก์ชาติ ก็ให้ทางธนาคารทำ Stress Test ถึงผลกระทบจากการขึ้นภาษีการค้าในแต่ละระดับ แต่ก็ยังตอบและบอกทิศทางที่แน่นอนไม่ได้ เพราะต้องดูด้วยว่าประเทศอื่นๆ ภาษีเขาจะเป็นอย่างไร และภาวะสินเชื่อปีนี้ในภาคธุรกิจมีการชะลอเบิกใช้ เพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลาง กลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กแทบไม่ขยับเลย”นายประกอบ กล่าว
นายประกอบ กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจปี 2568 ตั้งอยู่บนแนวคิด Crafting Collaboration,Moving Beyond Solutions ร่วมคิดและทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามและประมินสถานการณ์ พร้อมให้คำแนะนำและร่วมมือกันพัฒนากลยุทธ์และแนวทางเพื่อบรรลุเป้าประสงค์ทางธุรกิจของลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ ผ่านการดำเนินงาน 4 ด้านหลัก ได้แก่
1. Sustainable Finance and Capacity Bulding – เสริมสร้างขีดความารถด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน พร้อมสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลกค้าในมิติของ ESG (Environmental, Social, and Govemance) เพื่อสร้างโอกาสทางการเงินใหม่ๆ รองรับการเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ
และสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจและสังคมในระยะยาว โดยสินเชื่อกลุ่มนี้มองว่ามีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันมีบริษัทขนาดใหญ่บางส่วนที่ทำ ยังมีอีกหลายบริษัทต้องทำเช่นเดียวกัน
2.Qualty Growth – ผลักดันการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีคุณภาพ ด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งในความต้องการของลูกค้าแต่ละราย พร้อมสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสียง
3. Investment Banking Solution – เสริมแกร่งโซลูชันการ เงินเพื่อธุรกิจแบบครบวงจรผ่านความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเครือข่ายระดับโลกของ MUFG เครือข่ายธนาคารพันธมิตรในภูมิภาคอาเซียน และ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (Kungsri Securies) เพื่อให้คำปรึกษาทางด้านการเงินที่เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของลูกค้าแต่ละราย
รวมถึงการให้บริการที่ปรึกษาสำหรับการซื้อขายและควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions หรือ M&A) มีลูกค้าในมือพอสมควร ในกลุ่มพลังงานทดแทนแต่สถานการณ์ไม่ค่อยเอื้อ ยิ่งมีเรื่องทรัมป์ เข้ามา มีการเปลี่ยนแปลงค่าไฟ ทำให้เกิดเลื่อนการตัดสินใจออกไป การเป็นที่ปรึกษาในการระดมทุนผ่านตลาดตราสารทุน (Equity Capital Markets) และการเป็นผู้สนับสนุนการขาย (Selling Agent) หน่วยลงทุน
4.Leverage MUFG & Global Network ยกระดับการให้บริการและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่ก้าวไกลยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ด้วยความร่วมมือกับทุกหน่วยงานของกรุงศรี กรุ๊ป เครือข่ายของ MUFG และเครือข่ายระดับโลก เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ
นายประกอบ กล่าวว่า ปีนี้ กลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ฯ ได้ต้อนรับหน่วยงานที่ดูแลกลุ่มลูกค้าบรรษัทข้ามชาติ หรือ Mulinational Corporation (MNC) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมธุรกิจ และพร้อมจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งร่วมกับบรรษัทข้ามชาติในภูมิภาค East Asian โดยเฉพาะเอเชียตะวันออก เช่น จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และไต้หวัน ที่แสดงให้เห็นสัญญาณที่ดีในการขยายการลงทุนและดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย โดยกรุงศรีและ MUFG พร้อมผนึกกำลังเพื่อสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าในประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์สูงสุด
“ภายใต้บริบทความท้าทายและความเสี่ยงทางเศรษจกิจที่เพิ่มสูงขึ้น กรุงศรีพร้อมจะเดินหน้าเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจ เพื่อช่วยสนับสนุนลูกค้าอย่างเต็มที่ในการปรับตัวและสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง และผลักดันเศรษฐกิจไทยก้าวสู่การเติบโตที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน” นายประกอบ กล่าว
