HoonSmart.com >> ปตท.(PTT) ไตรมาส 1/68 กำไร 23,315.49 ลบ. ลดฮวบ 19.5% ธุรกิจปิโตรเคมี-การกลั่น ฉุด ขณะที่ธุรกิจค้าน้ำมันมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน 1,500 ลบ.เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสต็อกถึง 2,600 ลบ.

บริษัท ปตท. (PTT) ไตรมาส 1/68 กำไร 23,315.49 ลบ.กำไรต่อหุ้น 0.81 บาท ลดฮวบ 5,652 ล้านบาท หรือ 19.51% เทียบช่วงเดียวกันปี 2567 กำไรสุทธิ 28,967.50 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.01 บาท
เทียบกับไตรมาส 4/67 (QoQ) กําไรสุทธิของปตท. และบริษัทย่อยใน 1Q2568 มีจํานวน 23,315 ล้านบาท เพิ่มขึน 14,004 ล้านบาท หรือมากกว่า 100% จากกําไรสุทธิจํานวน 9,311 ล้านบาทใน 4Q2567 ตาม EBITDA ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวข้างต้น
ปตท. ชี้แจง Q1/68 ผลดำเนินงานบริษัท และบริษัทย่อย มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา, ดอกเบี้ย และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 93,527 ลบ. ลดลง 25,190 ลบ. หรือ 21.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้ 118,717 ลบ. โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น
ธุรกิจการกลั่น ผลดำเนินงานลดลงจาก กําไรขั้นต้นจากการกลั่น (Market GRM) ที่ลดลง ประกอบกับ Crude Premium ที่ปรับเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ 1Q2568 ปตท. และบริษัทย่อย มีกําไรสต๊อกน้ำมันสุทธิ กับมูลค่าสุทธิ ที่จะได้รับของสินค้าคงเหลือประมาณ 1,500 ล้านบาท ขณะที่ใน 1Q2567 มีกำไรประมาณ 2,600 ล้านบาท
นอกจากนี้ ธุรกิจปิโตรเคมี มีผลดำเนินงานลดลง โดยหลักจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของกลุ่มอะโรเมติกส์ที่ปรับตัวลดลง อีกทั้งกลุ่มธุรกิจสํารวจและผลิตปิโตรเลียม มีผลการดาเนินงานลดลงจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ มีผลการดําเนินงานลดลงเช่นกัน โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ มีกำไรขั้นต้นลดลงจากต้นทุนขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากผลกระทบของการเริ่มคำนวณต้นทุนราคาก๊าซฯ ด้วยนโยบาย Single Pool ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 เป็นต้นมา
แม้ว่าปริมาณขายรวมปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยในกลุ่มธุรกิจก๊าซฯ ปรับลดลง โดยหลักจากบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี (PTTLNG) เนื่องจากมีการลดสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการ LNG Receiving Terminal แห่งที่ 2 (LMPT2) เป็นร้อยละ 50.0
วันที่ 30 เม.ย. 2567 กําไรสุทธิของ ปตท. และบริษัทย่อยใน 1Q2568 มีจํานวน 23,315 ล้านบาท ลดลง 5,653 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.5 จากกําไรสุทธิจํานวน 28,968 ล้านบาท ใน 1Q2567จาก EBITDA ที่ลดลงตามกล่าวข้างต้น แม้ว่ากำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น และขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ลดลง
ประกอบกับใน 1Q2568 มีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจํา (Non-recurring Items) สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นขาดทุนประมาณ 200 ล้านบาท โดยหลักจากส่วนแบ่งผลขาดทุนจากการด้อยค่าสุทธิกับการกลับรายการด้อยค่าเงินลงทุนของบริษัท อูเบะ เคมิคอลส์ (เอเชีย) ( UCHA) ของบริษัท ไออาร์พีซี ( IRPC) ขณะที่ใน 1Q2567 มีการรับรู้เป็นกําไรประมาณ 4,600 ล้านบาท
โดยหลักจากกําไรจากการขายเงินลงทุนใน Alvogen Malta (Out-licensing) Holding Ltd. (AMOLH) ของบริษัท ปตท. โกลบอล แมนเนจเม้นท์ (PTTGM)
1Q2568 ปตท. และบริษัทย่อยมี EBITDA จํานวน 93,527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 236 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.3 จากไตรมาส 4 ปี 2567 (4Q2567) ที่จํานวน 93,291 ล้านบาท โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิ โตรเคมีและการกลั่น โดยธุรกิจปิโตรเคมี
มีผลการดาเนินงานเพิ่มขึ้น จากต้นทุนวัตถุดิบที่ดีขึ้น และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของกลุ่มโอเลฟินส์ที่ปรับเพิ่มขึ้น
ขณะที่ธุรกิจการกลั่นลดลง จาก Market GRM ที่ปรับลดลง จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงเกือบทุกผลิตภัณฑ์และ Crude Premium ที่ปรับเพิ่มขึ้น
แม้ว่าใน 1Q/2568 ปตท. และบริษัทย่อยมีกําไรสต๊อกน้ำมันสุทธิกับมูลค่าสุทธิ ที่จะได้รับของสินค้าคงเหลือ ประมาณ 1,500 ล้านบาท ขณะที่ใน 4Q2567 มีกําไรประมาณ 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจนํ้ามันและการค้าปลีก มีผลการดาเนินงานเพิ่มขึ้นโดยหลักจากกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรของน้ำมันอากาศยาน น้ำมันดีเซล และน้ำมันเบนซิน
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของ กลุ่มธุรกิจสํารวจและผลิตปิโตรเลียม ปรับลดลงจากปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ยที่ปรับ
ลดลง รวมถึงธุรกิจก๊าซธรรมชาติ มีผลการดาเนินงานลดลง โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ มีกำไรขั้นต้นลดลง จากต้นทุนค่าเนื้อก๊าซฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคา Pool Gas ประกอบกับปริมาณขายลดลง
แม้ว่าธุรกิจระบบท่อส่งก๊าซฯ มีผลการดาเนินงานเพิ่มขึ้น โดยหลักจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมบํารุงที่ลดลง นอกจากนี้ ธุรกิจจัดหาและค้าส่งก๊าซฯ มีกําไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายขายและบริหารลดลง แม้ว่าต้นทุนก๊าซฯ ปรับเพิ่มขึ้นและปริมาณขายรวมปรับลดลง
กําไรสุทธิของปตท. และบริษัทย่อยใน 1Q2568 มีจํานวน 23,315 ล้านบาท เพิ่มขึน 14,004 ล้านบาท หรือมากกว่าร้อยละ 100.0 จากกําไรสุทธิจํานวน 9,311 ล้านบาทใน 4Q2567 ตาม EBITDA ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวข้างต้น
รวมทั้งมีกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น และขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ลดลง ประกอบกับใน 1Q2568 มีการรับรู้ Non-recurring Items สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นขาดทุนประมาณ 200 ล้านบาท โดยหลักจากส่วนแบ่งผลขาดทุนจากการด้อยค่าสุทธิกับการกลับรายการด้อยค่าเงินลงทุนของ UCHA ของ IRPC
ขณะที่ใน 4Q2567 มีการรับรู้รายการ Non-recurring Items สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นขาดทุนประมาณ 5,000
ล้านบาท โดยหลักจากประมาณการหนี้สินจากค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตของกลุ่มบริษัท Vencorex และบริษัท พีทีทีอาซาฮี เคมิคอล จากัด ( PTTAC) ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล ( GC) ประมาณ 2,200 ล้านบาท และค่าใช้จ่าย
ตอบแทนส่วนแบ่งกำไร สำหรับบริหารการลงทุนและสร้างมูลค่าเพิ่ม PTTGM ประมาณ 2,200 ล้านบาท
