วิจัยกสิกรไทยคาด Q4 คนกรุงเที่ยวไทยรายได้สะพัด 5.8 หมื่นล.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองนโยบายกระตุ้นคนไทยเที่ยวไทย สำรวจคนกรุงเทพฯ เที่ยวไทยเพิ่ม หนุนรายได้สะพัดไตรมาส 4 กว่า 5.8 หมื่นล้านบาท เติบโต 7.2% จากปีก่อน เผยผลสำรวจยังเลือกเดินทางเมืองท่องเที่ยวหลักมากกว่าเมืองรอง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า นโยบายการกระตุ้นคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะการกระตุ้นแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองผ่านมาตรการหักลดหย่อนภาษี รวมถึงการประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ในประเทศที่เข้มข้นทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ตั้งแต่ต้นปี 2561 คนกรุงเทพฯ มีการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น และในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คนกรุงเทพฯ ยังมีแผนเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น จึงน่าจะก่อให้เกิดรายได้กระจายลงสู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเป็นมูลค่า 58,025 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 7.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมูลค่าที่เพิ่มขึ้น มาจากจำนวนทริปที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกประเภท

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้สำรวจพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2561 โดยมีจำนวนกลุ่มตัวอย่าง 510 ตัวอย่าง ซึ่งการสำรวจเน้นไปยังกลุ่มคนกรุงเทพฯ ที่เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวและมีการพักค้างในพื้นที่ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยว การเลือกจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว กิจกรรมการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว เป็นต้น

สำหรับจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวในประเทศของคนกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2561 นี้ จากผลสำรวจ พบว่า แม้มีการกระจายตัวไปเมืองท่องเที่ยวต่างๆ มากขึ้น แต่ราวร้อยละ 58.8 ของกลุ่มตัวอย่าง ยังคงเลือกเดินทางท่องเที่ยวในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา และชลบุรี เป็นต้น ขณะที่อีกร้อยละ 41.2 เลือกเดินทางท่องเที่ยวไปยังเมืองท่องเที่ยวรอง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากผลสำรวจในช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ การกระจายตัวของนักท่องเที่ยวไปแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ อาจจะส่งผลกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยวเดิมได้เช่นกัน ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจในแหล่งท่องเที่ยวเดิมคงจะต้องปรับแผนการทำตลาดรองรับการเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้จากรณีที่ปี 2561 นี้ภาครัฐได้ออกมาตรการหักลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายในด้านบริการ เช่น ค่าแพ็คเกจทัวร์ ค่าที่พักโรงแรมหรือโฮมสเตย์ ในเมืองท่องเที่ยวรอง ซึ่งจากผลสำรวจการรับรู้มาตรการดังกล่าว คนกรุงเทพฯ รับรู้เรื่องมาตรการหักลดหย่อนภาษีฯ การท่องเที่ยวเมืองรองคิดเป็นร้อยละ 59.7 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่ไม่รู้เรื่องมาตรการหักลดหย่อนภาษีฯ การท่องเที่ยวเมืองรองคิดเป็นร้อยละ 40.3 ของจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด สำหรับสาเหตุที่กลุ่มตัวอย่างไม่รู้เรื่องมาตรการ เนื่องจากไม่ได้รับรู้ข่าวสาร และไม่รู้ว่าเมืองท่องเที่ยวรองครอบคลุมจังหวัดใดบ้าง

ปัจจุบันการท่องเที่ยวมีความหลากหลายและแตกต่างจากเดิม ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งจากนโยบายของภาครัฐที่หันมาส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองและการท่องเที่ยววิถีไทย ขณะเดียวกัน การท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ก็ทำให้เกิดธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยวใหม่ๆ ขึ้น กอปรกับบทบาทของเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลมากขึ้นทั้งการเป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจและสิ่งอำนวยความสะดวกต่อการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว

ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวคงจะต้องมีการปรับแผนทางธุรกิจให้สอดคล้องไปกับปัจจัยแวดล้อมที่เกิดขึ้น เช่น ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในเมืองท่องเที่ยวรองอาจใช้โอกาสจากนโยบายภาครัฐในการทำตลาดการท่องเที่ยว การพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวผสมผสานวิถีชีวิตของชุมชนหรือภูมิปัญญาท้องถิ่นกับนวัตกรรมสมัยใหม่ การทำตลาดโดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ผ่านช่องทางออนไลน์และเครือข่ายสังคมออนไลน์ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ หรือการใช้เพื่อบอกเส้นทางของสถานที่ท่องเที่ยวหรือแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เป็นต้น