บลจ.กรุงไทย คัดกองทุนเด่นลงทุนหุ้น “จีน-อินเดีย-ยุโรป” เหมาะจัดพอร์ตลงทุน โอกาสสร้างผลตอบแทนเติบโตระยะยาว
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า บริษัทได้ติดตามผลการดำเนินงานของกองทุนอย่างใกล้ชิดและจะพิจารณากองทุนที่โดดเด่นในแต่ละเดือนมานำเสนอให้กับนักลงทุน โดยคัดสรรกองทุนที่มีโอกาสในการเติบโต เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุนในระยะยาว โดยในเดือนพ.ค. แนะนำ 3 กองทุน ซึ่งลงทุนในตลาดหุ้นจีน อินเดียและยุโรป เพื่อให้ผู้ลงทุนพิจารณาจัดสรรให้ไว้พอร์ตการลงทุน ประกอบกับราคาหุ้นทั้ง 3 ตลาดปรับตัวลงมา ถือเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการพิจารณาเข้าลงทุน สำหรับนักลงทุนที่สนใจต้องการกระจายการลงทุนในต่างประเทศ
สำหรับกองทุนเปิดเคแทมอินเดีย อิควิตี้ ฟันด์ (KT-India) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ Invesco India Equity Fund เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก จะเน้นเลือกหุ้นแบบ Bottom Up ซึ่งผู้จัดการกองทุนชาวอินเดียมีความเข้าใจ และเข้าถึงบริษัทได้ดีและกองทุนหลักไดรับ Morningstar 4 ดาว (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.61) โดยกองทุนดังกล่าว
กองทุน KT-India ได้รับผลกระทบจาก Trade war น้อย ประกอบกับมีการลงทุนภาครัฐสำหรับโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น ธนาคารซิตี้แบงก์ คาดการณ์มูลค่าใช้จ่าย 6.5 แสนล้านดอลลาร์ อัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค.อ่อนตัวลงสู่ระดับ 4.28% YoY อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงไว้ที่ 6% ตลาดมวลรวมภายในประเทศ ( GDP) ไตรมาส 4 อยู่ที่ +7.2% YoY สูงกว่าไตรมาสที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 6.5% ตลาดคาดการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) ปีหน้าสูงมากกว่า 10% และ sentiment ตลาดเริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว ซึ่งกองทุนหลักจะเลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน KT-India ณ วันที่ 30 เม.ย.2561 ตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -2.01% และ 6 เดือน อยู่ที่ 3.21% และ 1 ปี อยู่ที่ 11.19% เมื่อเทียบกับ Benchmark ตั้งแต่ต้นปี-6.53% และ 6 เดือน -4.31% และ 1 ปี อยู่ที่ 2.47%
ส่วนกองทุนเปิดเคแทม ไชน่า อิควิตี้ ฟันด์ (KT-China) ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Blackrock China Fund กองทุนหลักมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด และจะลงทุนอย่างน้อย 70% ของสินทรัพย์รวมของกองทุนในตราสารทุนของบริษัทที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจีน หรือเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจในจีนที่จดทะเบียนทั้งในและต่างประเทศ ทีมผู้จัดการกองทุนมีประสบการณ์ในตลาดเอเซียมากกว่า 20 ปี และมีผู้จัดการกองทุนที่เคยเป็นหัวหน้าทีมกลยุทธ์จีนที่ Glodman Sachs ด้านกองทุนหลักยังได้รับการจัดอันดับจาก Morningstar 4 ดาว อีกด้วย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.61 )
สำหรับปัจจัยสนับสนุนทำให้กองทุน KT-China น่าสนใจ เนื่องจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ( EM) เร่งตัวขึ้นดีกว่าตลาดพัฒนาแล้วในอีก 2 ปีข้างหน้า ตลาดมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรก เติบโต 6.8% YoY เท่าที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งเติบโตได้ดีกว่าเป้าหมายของรัฐบาลจีนที่ 6.5% นอกจากนี้ ธนาคารกลางของจีนยังลดอัตราเงินฝากสำรองขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์ลง 1% สู่ระดับ 16% ส่งผลให้ธนาคารจีนจะปล่อยกู้ได้มากขึ้น ส่วนนโยบายกำแพงภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งผลเชิงลบในเชิงจิตวิทยาระยะสั้น ค่า PE และ PB ยังถือว่าถูกกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และถูกกว่าเทียบกับตลาดอื่นๆ อีกทั้ง EPS ตลาดเติบโตได้มากกว่า 10 %
ด้านผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 30 เมษายน 2561 YTD อยู่ที่ 0.32% 6 เดือน อยู่ที่ 1.51 % และ1 ปี อยู่ที่ 18.50% Benchmark YTD อยู่ที่ -1.15% 6 เดือน อยู่ที่ 0.06% และ1 ปี อยู่ที่ 20.90%
นอกจากนี้ กองทุนเปิดเคแทม ยูโรเปียน อิควิตี้ ฟันด์ ไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกำแพงภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์เช่นกัน โดยได้รับการยกเว้นการนำเข้าส่งออกพร้อมกับหลายประเทศ ประกอบกับค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่ามีผลจำกัดโดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็กที่มีรายได้จากการส่งออกน้อย ในขณะเดียวกันค่าเงินยุโรที่แข็งค่าช่วยสนับสนุน Sentiment ตลาดที่ดีขึ้น ธนาคารกลาง ( ECB) มีความมั่นใจถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว ส่วน EPS ตลาดมองว่าเติบโตได้ราว +8.9% โดยกองทุนเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco Continental European Small Cap Equity Fund (Master Fund) บริหารโดย Invesco ซึ่งเป็นบริษัทจัดการระดับโลก
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน ย้อนหลัง ณ วันที่ 30 เม.ย.2561 YTD อยู่ที่ -4.03% และ 6 เดือน อยู่ที่ -4.23% 1 ปี อยู่ที่ 6.28% เมื่อเทียบกับ Benchmark YTD อยู่ที่ -2.26% 6 เดือน อยู่ที่ -1.46% และ1 ปี อยู่ที่ 6.42%