ก.ล.ต.เฮียริ่งแก้ไขพ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ถึง 7 ธ.ค.

ก.ล.ต.เปิดรับฟังความคิดเห็นแก้ไข พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ หลังปรับปรุงตามข้อสังเกตของกฤษฎีกา 6 เรื่อง พร้อมถอดเรื่อง การสั่งให้มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียน ออกจากร่างพ.ร.บ. เหตุ สคก. เห็นควรให้แก้ไขในกฎหมายอื่นที่เหมาะสมมากกว่า

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ตามที่ก.ล.ต. ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ชุดยกระดับการกำกับดูแลตลาดทุนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.)ได้มีการปรับปรุงแก้ไขร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ก.ล.ต. จึงขอเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาในการเสนอร่างกฎหมายต่อไป
โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1) การกำกับดูแลธุรกิจหลักทรัพย์ โดยคณะกรรมการ ก.ล.ต. มีอำนาจกำหนดให้การประกอบกิจการในลักษณะใดลักษณะหนึ่งไม่เป็นธุรกิจหลักทรัพย์ และกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติหรือปฏิบัติแตกต่างจากเกณฑ์ที่กำหนดได้ รวมทั้งมีดุลพินิจในการกำหนดทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทหลักทรัพย์ ทั้งนี้ เพื่อให้มีความยืดหยุ่น รองรับการให้บริการรูปแบบใหม่ ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ส่งเสริมพัฒนาการและการแข่งขัน

2) การจัดการกองทุนรวม กำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ที่จัดการกองทุนรวม (บลจ.) มีหน้าที่จัดการกองทุนรวมด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและระมัดระวังรักษาประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน โดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ และต้องจัดให้มีนโยบายป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ดูแลการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ หรืออาจทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเสียประโยชน์ รวมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการขอมติของผู้ถือหน่วยลงทุน เพื่อให้ บลจ. ได้รับมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนได้ง่ายขึ้น

3) การปรับปรุงการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยกำหนดภารกิจ และความคาดหวังในการดำเนินกิจการของตลาดหลักทรัพย์ และแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งวาระดำรงตำแหน่ง เพื่อให้การดำเนินกิจการของตลาดหลักทรัพย์มีความโปร่งใส ต่อเนื่อง ตลอดจนคำนึงถึงประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียในตลาดทุนอย่างทั่วถึง

4) การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดทุน โดยให้คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์มีอำนาจประกาศกำหนดให้บุคคลที่มิใช่บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกสามารถซื้อหรือขายหลักทรัพย์จดทะเบียนประเภทใดประเภทหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ได้ และห้ามมิให้บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกซื้อหรือขายหลักทรัพย์จดทะเบียนนอกตลาดหลักทรัพย์ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์ หรือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ตามประเภทที่ได้รับใบอนุญาต รวมทั้งให้ผู้ได้รับใบอนุญาตศูนย์รับฝากหลักทรัพย์สามารถใช้ระบบ scripless ได้กับการรับฝากหลักทรัพย์ทุกประเภท

5) การจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (กองทุน CMDF) โดยให้มีฐานะเป็นนิติบุคคลและมีลักษณะการดำเนินงานแบบเอกชน มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน และมีคณะกรรมการ 9 คน ประกอบด้วย (1) ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ (2) รองเลขาธิการ ก.ล.ต (3) กรรมการกองทุนโดยตำแหน่ง ได้แก่ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย รวมทั้งผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ (4) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 คน

6) แก้ไขเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความชัดเจน และความโปร่งใสในการดำเนินงานของ ก.ล.ต

อนึ่ง เรื่องการสั่งให้มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียน มีการปรับออกจากร่างพระราชบัญญัติ เนื่องจาก สคก. เห็นควรให้แก้ไขในกฎหมายอื่นที่เหมาะสมมากกว่า

ก.ล.ต. เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. (www.sec.or.th/hearing) ผู้ที่เกี่ยวข้อง
และผู้สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือที่ 0-2033-9951, 0-2033-4685, 0-2033-4684 หรือทาง e-mail: thanapatk.sec.or.th จนถึงวันที่ 7 ธันวาคม 2561