โบรกฯ มองหุ้นแกว่งแคบขาดปัจจัยหนุน

โบรกฯ มองแนวโน้มหุ้นขาดปัจจัยหนุน รอสหรัฐฯเจรจาการค้าจีน “เจพีมอร์แกน” หั่นราคาเป้าหมายน้ำมันปีหน้ากระทบหุ้นพลังงาน ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดทำการวันขอบคุณพระเจ้าและตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดในวันขอบคุณแรงงาน ด้านตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ปรับตัวในแดนลบ

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คาดดัชนีแกว่งตัว 1,595 – 1,615 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน โดยแม้ว่าจะได้ข่าวบวกจากอังกฤษและ EU บรรลุข้อตกลงกรอบความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างสหราชอาณาจักรและ EU ภายหลัง BREXIT จะมีผลวันที่ 29 มี.ค.ปีหน้า รวมถึงจะมีการประชุมผู้นำ EU พิจารณา BREXIT เพิ่มเติมในช่วงสุดสัปดาห์นี้ด้วย

อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากประเด็นเจพีมอร์แกนปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีหน้าลงเหลือ 73 US/Barrel (เดิม 83.5 US/Barrel) จาก Supply ที่เพิ่มขึ้นแต่ Demand หดตัวลง ซึ่งเป็นลบต่อคาดการณ์ผลประกอบการกลุ่มพลังงานในอนาคตรวมถึง EPS ของ SET โดยรวม เนื่องจากกลุ่มพลังงานมีน้ำหนักต่อดัชนีค่อนข้างสูงราว 23% นอกจากนี้กระแส Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกต่อเนื่องก็จะเป็นตัวถ่วงต่อภาวะตลาดในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน

บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัว Sideways โดยขาดปัจจัยชี้นำหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการ มองว่าแนวรับสำคัญบริเวณ 1,585-1,600 จุดคาดว่าจะยังเป็นระดับที่แข็งแรงและมีโอกาสที่ดัชนีจะรีบาวด์ได้ในระยะสั้น แต่จะยังไม่เป็นลักษณะ V-Shape โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการพบกันและเจรจาการค้าระหว่างทรัมป์และสี จิ้น ผิงในการประชุม G20 ปลายเดือนพ.ย. รวมถึงการประชุม EU ช่วงสุดสัปดาห์นี้ในประเด็น Brexit

บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดดัชนีปรับตัวขึ้น แนวต้าน 1,617/1,624 จุด ส่วนแนวรับ 1,596/1,584จุดราคาความคืบหน้า Brexit หลัง อังกฤษ-สหภาพยุโรป สามารถตกลงกันได้ หนุนค่าเงินยูโรและปอนด์แข็งค่าขึ้น กดดันค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า หนุนสินทรัพย์เสี่ยง EM-ASIA ผสานแรงหนุนในประเทศ ธปท. ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือน ธ.ค.นี้ สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในแข็งแรงขึ้นในเชิงพื้นฐาน จะหนุนกลุ่มธนาคาร การบริโภค และอิงการลงทุนนำตลาด

สำหรับการลงทุนวันนี้แนะ Theme “Domestic Play” BBL, KBANK, PSTC