HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,190 – 1,200 จุด แนวต้าน 1,220 – 1,230 จุด คาดดัชนีถูกกดดันจากความกังวลมาตรการภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐ ด้าน MSCI รีบาลานซ์หุ้นไทยช่วงปิดตลาด คาดเม็ดเงินไหลออกราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่กำไรบจ.ไทยออกมาต่ำกว่าคาด 6.9% แนะพักเงินในกลุ่มปลอดภัยและเงินปันผลสูง พร้อมเสิร์ฟหุ้นวันนี้แนะ CENTEL, KLINIQ
บริษัหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,190 – 1,200 จุด แนวต้าน 1,220 – 1,230 จุด คาดดัชนีจะถูกกดดันจากความกังวล มาตรการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศนั้น ฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายก ฯ เพียงคนเดียว แนะนำพักเงินในกลุ่มปลอดภัยและเงินปันผลสูง เช่น BH, BDMS, ADVANC, AP, SPALI, TISCO, TTW
ส่วนประเด็นวันนี้ MSCI จะทำการรีบาลานท์ในช่วงปิดตลาด ซึ่งคาดจะมีเม็ดเงินไหลออกราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่กำไร Q4/67 บจ. 480 แห่งที่ส่งงบแล้วมีกำไรต่ำกว่าคาด -6.9%
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.45%, S&P500 -1.59%, Nasdaq -2.78% ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -3.8% และดัชนีเซมิคอนดักเตอร์ของตลาดฟิลเดลเฟีย -6.1% หลังตลาดผิดหวังต่ออัตรากำไรขั้นของ Nvidia ที่มีแนวโน้มลดลง กอปรยังกังวลต่อ มาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าต่อเม็กซิโก, แคนาดา และจีนในวันที่ 4 มี.ค.นี้ รวมถึง ประธานาบดีทรัมป์ขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจาก EU ในอัตรา 25% เร็ว ๆ นี้ บ่งชี้ภาวะสงครามการค้ามีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐเพิ่มขึ้น 22,000 อยู่ที่ 242,000 ราย สูงสุดในรอบ 3 เดือน และ US GDP Q4/67 ครั้งที่ 2 +2.3% QoQ ตามคาดการณ์ ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม US PCE ม.ค. 2.5% & ธ.ค. 2.6% YoY ที่จะเป็นดัชนีที่เฟดใช้วัดเงินเฟ้อของสหรัฐ
หุ้นแนะนำ ได้แก่ CENTEL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 40.50 บาท) งวด 4Q67 มีกำไรสุทธิ 667 ล้านบาท +309%QoQ, +57%YoY หนุนจากรายได้ทั้งธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารที่เติบโตตามปัจจัยฤดูกาล นอกจากนี้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมยังเพิ่มขึ้นจาก The Food Selection
ส่วนภาพรวมปี 67 มีกำไรปกติ 1.78 พันล้านบาท +80%YoY สำหรับปี 68 บริษัทมองเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจโรงแรมทางด้าน RevPar เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4,500-4,800 บาท จากปีก่อน 4,101 บาท โรงแรมที่พัทยากลับมาเปิดเต็มปีหลังการ renovate โรงแรมในญี่ปุ่น Osaka มี world expo 2025
ส่วนธุรกิจอาหาร SSSG ขยายตัว 3-5% ด้านส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมวางแผนการเติบโตของร้าน Shinkanzen ขยายอีก 15 สาขาในปี 68 รวมถึงร้านนักล่าหมูกระทะและ Katsu Modori ที่เติบโตได้ดี พร้อมมีแผน M&A เพิ่มอีก ทั้งนี้ตลาดประเมินกำไรปี 68-69 ที่ 1.87 พันล้านบาท (+7%YoY) และ 2.7 พันล้านบาท (+16%YoY)
หุ้น KLINIQ (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 40.75 บาท) กำไรสุทธิ 4Q67 อยู่ที่ 99 ล้านบาท (+26.69%YoY, +33.38%QoQ) เติบโตได้เด่นตามรายได้ที่อยู่ที่ 844 ล้านบาท (+31%YoY, +13%QoQ) หนุนจาก SSSG+13.1%YoY รวมถึงจำนวนสาขาที่สูงขึ้น 17 สาขา
ทั้งนี้ เห็นสัญญาณที่ดีจากแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายสาขาใหม่ๆที่เปิดอย่าง aggressive ในช่วง 9M67(ราว14สาขา) มีน้ำหนักน้อยลงแล้ว รายได้สามารถโตทันต้นทุนค้าใช้จ่ายที่สูงขึ้นได้ ขณะที่เรายังชอบ KLINIQ จากการมีบริการที่หลายหลาย โดย ปัจจุบัน ณ สิ้น 4Q67 KLINIQ มีจำนวนสาขาอยู่ราว 72 สาขา เป็น THE KLINIQUE 45 สาขา, L.A.B.X 23 สาขา, Surgery Center 1 สาขา, L’CLINIC 2 สาขา, และ Wellness Spa 2 สาขา
