HoonSmart.com>> กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน BTSGIF เตรียมนำเงินสดจากการดำเนินงานงวด ต.ค.-ธ.ค.67 จ่ายลดทุนอัตรา 0.20 บาท ลดพาร์จาก 7.767 บาท เหลือหน่วยละ 7.567 บาท ปิดบุ๊ก 27 ก.พ.68 ด้านผลงานไตรมาส 3 รายได้รวม 1,242.6 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.1% YoY แต่เพิ่มขึ้น 15.5% QoQ รับการเปลี่ยนแปลงของรายได้จากเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนสิทธิรายได้สุทธิจากการดำเนินงานระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพสายหลัก
นายพรชลิต พลอยกระจ่าง กรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง (BBLAM) เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) เตรียมนำเงินสดจากการดำเนินงาน สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปการลดทุนจดทะเบียนหน่วยละ 0.20 บาท ด้วยการลดมูลค่าที่ตราไว้ จากหน่วยละ 7.767 บาท เหลือหน่วยละ 7.567 บาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินลดทุนในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 และจะจ่ายเงินลดทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 13 มีนาคม 2568
ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงเดือนตุลาคม 2567 ถึงธันวาคม 2567 (ไตรมาสที่ 3 ปี 2567/2568) กองทุน BTSGIF มีรายได้รวมเท่ากับ 1,242.6 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 15.5% จากไตรมาสก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงของรายได้จากเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนสิทธิรายได้สุทธิจากการดำเนินงานระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพสายหลักตามสัญญาสัมปทานซึ่งอยู่ที่ 1,235.0 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเนื่องจากปีนี้มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงสูง
อย่างไรก็ตาม รายได้จากเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนสิทธิรายได้สุทธิ เพิ่มขึ้น 15.6% จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวมลดลงมาก
ทั้งนี้ ในไตรมาสนี้ รายได้ค่าโดยสารเท่ากับ 1,771.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.5% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 6.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.0% จากไตรมาสก่อน เป็น 53.0 ล้านเที่ยวคน แต่การเพิ่มขึ้นจากปีก่อนบางส่วนหักกลบกับอัตราค่าโดยสารเฉลี่ยที่ลดลง 1.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 กองทุนมีขาดทุนสะสม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 16,599.0 ล้านบาท ดังนั้น กองทุนจึงไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนสำหรับงวดนี้ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ระบุในหนังสือชี้ชวนของกองทุน