HoonSmart.com >> ดาวโจนส์ปิดบวก 130 จุด หุ้นเทคโนโลยีพุ่ง หลัง “ทรัมป์” ประกาศโครงการลงทุน AI

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 22มกราคม 2568 ปิดที่ 44,156.73 จุด เพิ่มขึ้น 130.92 จุด หรือ +0.30% และดัชนี S&P 500 ทำสถิติสูงสุดในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลการดำเนินงานงานรายไตรมาสของ Netflix และการประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าภาคเอกชนจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์(AI)
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,086.37 จุด เพิ่มขึ้น 37.13 จุด, +0.61%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,009.34 จุด เพิ่มขึ้น 252.56 จุด, +1.28%
หุ้น Netflix เพิ่มขึ้น 9.7% และเป็นหุ้นที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดของ S&P หลังจากรายงานจำนวนสมาชิกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 300 ล้านรายในช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว อีกทั้งกำไรและรายได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ทำให้สามารถปรับขึ้นราคาค่าสมาชิกสำหรับแผนบริการส่วนใหญ่ได้
กลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 2.5% และเป็นกลุ่มที่ปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในบรรดาดัชนีอุตสาหกรรมหลัก 11 ของ S&P 500 จากการเพิ่มขึ้นนำของหุ้น AI ใหญ่อย่าง Nvidia และ Microsoft จากมุมมองในทางบวกต่อ AI และการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นักลงทุนเชื่อมั่นในอนาคตของ AI หลังจากที่ทรัมป์ประกาศการร่วมลงทุนในโครงการ Stargate ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐอเมริกา โดย OpenAI, Oracle และ Softbank จะลงทุนอย่างน้อย 5 แสนล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะไม่มีความชัดเจนในเรื่องเงินทุนก็ตาม
หุ้น Oracle เพิ่มขึ้น 6.8% หุ้น Microsoft เพิ่มขึ้น 4.1% หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 4.4% หุ้น Arm Holdings บริษัทลูกของ Softbank พุ่งขึ้น 15.9% หุ้น Dell บวก 3.6%.
คีธ เลอร์เนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนร่วมของ Truist กล่าวว่า การปรับขึ้นของตลาดมาจากหลายปัจจัยทั้งเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอลง อัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัว การรายงานผลการดำเนินงานที่เริ่มต้นอย่างแข็งแกร่ง และการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ประกาศเรื่องภาษีในวันแรกของการรับตำแหน่ง ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีกำลังตอกย้ำความเป็นผู้นำด้วยโครงการ Stargate ซึ่งสะท้อนถึงกระแสโลกและศักยภาพในการพลิกโฉมของ AI
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาดูแผนงานด้านการค้าของทรัมป์อย่างระมัดระวัง เนื่องจากมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ หลังจากที่ทรัมป์เตือนว่าอาจมีใช้ภาษีนำเข้ากับจีน เม็กซิโก แคนาดา และสหภาพยุโรปในวันที่ 1 กุมภาพันธ์
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้สั่งให้หน่วยงานรัฐบาลกลางทำการทบทวนประเด็นการค้าต่างๆ อย่างครอบคลุมภายในวันที่ 1 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่นักวิเคราะห์จาก Barclays กล่าวว่าตลาดควรจับตาอย่างใกล้ชิด
สำหรับความเคลื่อนไหวหุ้นรายตัว หุ้น Procter & Gamble ที่เพิ่มขึ้นราว 2% จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และหนุนดัชนีดาวโจนส์
หุ้น Johnson & Johnson ลดลง 1.9% แม้รายงานการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด
ตลาดยุโรปปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่กับกลุ่มอุตสาหกรรม ที่และตลาดดูเหมือนจะวิตกดับนโยบายด้านภาษีศุลกากรที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯประกาศล่าสุด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำการปรับตัวขึ้นโดยบวก 1.3% จากการที่หุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นจากการผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
แม้ว่าทรัมป์ประกาศว่า จะเก็บภาษีศุลกากรรอบใหม่จากสหภาพยุโรปและขู่ว่าจะเก็บภาษีสินค้าจีน 10% ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ แต่ตลาดก็ยังคงปรับขึ้น
หุ้น Adidas ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 6% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ดีกว่าคาด และยอดขายกับผลกำไรแข็งแกร่งในช่วงเทศกาลชอปปิงวันหยุด
ในด้านเศรษฐกิจมหภาค ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงหนุนจากสัญญาณสนับสนุนจากผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป ที่สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก พร้อมส่งสัญญาณว่า แทบจะประกันได้ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะมีมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 528.04 จุด เพิ่มขึ้น 2.06 จุด, +0.39%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,545.13 จุด ลดลง 3.16 จุด, -0.04%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,837.40 จุด เพิ่มขึ้น 66.45 จุด, +0.86%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 21,254.27 จุด เพิ่มขึ้น 212.27 จุด, +1.01%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคมลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.51% ปิดที่ 75.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 29 เซนต์ หรือ 0.37% ปิดที่ 79.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
