คลังโชว์เศรษฐกิจพ.ย.โต ส่งออก-ท่องเที่ยว-บริโภคเอกชนหนุน

HoonSmart.com>>กระทรวงการคลังรายงานเศรษฐกิจเดือนพ.ย.67 เติบโต ตามการส่งออก การท่องเที่ยว ภาคเอกชนบริโภคเพิ่มขึ้น ส่วนการลงทุนชะลอตัว ยกเว้นหมวดก่อสร้าง ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ขยายตัว 18.7% จับตาผลกระทบน้ำท่วม-ปัญหาภาคการผลิต

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจเดือนพ.ย.2567 เสถียรภาพยังอยู่ในเกณฑ์ดีมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนที่ดีขึ้นได้รับอานิสงส์จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ  แต่การบริโภคหมวดสินค้าคงทน ในหมวดยานยนต์ยังคงชะลอตัว

ส่วนการลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณชะลอตัวในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน -5.1% ปริมาณรถยนต์เชิงพาณิชย์จดทะเบียนใหม่  -20.7% สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ขยายตัว 17.8% ขณะที่ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ ลดลง -0.6% ทั้งนี้ยังคงต้องติดตามผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ของภาคใต้ รวมถึงสถานการณ์ของภาคการผลิตอุตสาหกรรม ที่จะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดต่อไป

สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 25,608.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.2% หากไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว 7.0% ตามหมวดเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ หากจำแนกรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า เพิ่มขึ้นในตลาดอินเดีย อินโดจีน (4) จีน และสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนพ.ย.มีมูลค่า 25,608 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 8.2% จากตลาดคาด 7.0-9.0% ทุกกลุ่มสินค้ายังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 25,835 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 0.9% ส่งผลให้ไทยยังขาดดุลการค้า 224 ล้านดอลลาร์   รวม 11 เดือนปีนี้ ส่งออกมีมูลค่า 275,763 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 5.1% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 282,033 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 5.7% ส่งผลให้ไทยยังขาดดุลการค้า 6,269 ล้านดอลลาร์ เชื่อมั่นว่าปี 2567 ส่งออกมีโอกาสขยายตัวได้ถึง 5.2% มีมูลค่าแตะ 3 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นมูลค่าการส่งออกที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนปี 2568 คาดโต 2-3%

 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–