KTC ตั้งเป้าปี 62 กำไรโต 10% ชู 9 เดือนดีเกินคาด

“บัตรกรุงไทย” ตั้งเป้าปี 62 กำไรโต 10% พอร์ตลูกหนี้ขยายตัว 10% หนี้เสียทรงตัว อวดงบไตรมาส 3 และ 9 เดือนแรกปีนี้กำไรโต 65% จากงวดปีก่อน รายได้เพิ่ม บริหารต้นทุนลด สำรองหนี้เสียน้อยลงหนุน 9 เดือนกำไรดีเกินคาด

บริษัท บัตรกรุงไทย (KTC) ตั้งเป้าปี 2562 เติบโตต่อเนื่องสำหรับธุรกิจหลักวางเป้าเติบโตด้วยการเพิ่มปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรรวมไม่ต่ำกว่า 15% พอร์ตลูกหนี้รวมขยายตัว 10% และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ณ สิ้นปี 2562 อยู่ระดับเดียวกับสิ้นปี 2561 อยู่ที่ 1.2% และประมาณการการสุทธิเติบโต 10% จากปีก่อนหน้า

ด้านการขอจัดตั้งธุรกิจนาโนไฟแนนซ์และพิโกไฟแนนซ์ยังอยู่ในขั้นตอนเสนอขออนุมัติต่อธนาคารกรุงไทยและหากเห็นชอบแล้วจะนำเรื่องขออนุมัติจัดตั้งไปยังธนาคารแห่งประเทศไทยต่อไป


สำหรับปี 2561 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตด้วยการขยายปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรรวมไม่ต่ำกว่า 15% โดย 9 เดือนที่ผ่านมาขยายตัวได้ 9% อีกทั้งตั้งเป้าพอร์ตลูกหนี้ขยายตัวประมาณ 10% โดย ณ ไตรมาส 3 พอร์ตลูกหนี้เติบโต 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและมีสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ สิ้นไตรมาส 3 อยู่ที่ 1.2% ต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ สำหรับกำไรคาดการณ์อยู่ในช่วงประมาณ 5,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามในรอบ 9 เดือนบริษัทไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตของพอร์ตและการใช้จ่ายผ่านบัตรตามที่ตั้งไว้ จากภาพรวมเศรษฐกิจเพิ่งเริ่มฟื้นตัวจึงขยายฐานสมาชิกได้ไม่มากเท่าที่ประมาณการไว้ อย่างไรก็ตามบริษัทปรับแผนการตลาดต่อเนื่องให้ทันต่อสภาพการแข่งขัน โดยยังคงสามารถขยายฐานบัตรได้มากขึ้นและควบคุมหนี้อยู่ในระดับเดียวกับปีก่อน รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มและค่าใช้จ่ายด้านการตลาดลง คุณภาพพอร์ตดีตั้งสำรองลด คุมต้นทุนการเงินได้ดีส่งผลให้กำไรเกินกว่าคาด

ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2561 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2561 กำไรสุทธิ 1,396.21 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.54 บาท เพิ่มขึ้น 65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 846.06 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.33 บาท ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2561 กำไรสุทธิ 3,911.02 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.52 บาท เพิ่มขึ้น 65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2,365.25 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.92 บาท

ในงวดไตรมาส 3/2561 บริษัทมีรายได้รวม 5,376 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากรายได้ดอกเบี้ย (รวมรายได้ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน) รายได้ค่าธรรมเนียมและรายได้อื่นๆ จำนวน 3,226 ล้านบาท 1,882 ล้านบาทและ 968 ล้านบาท ตามลำดับ สัดส่วนคิดเป็น 60%,22% และ 18% ของรายได้รวม ตามลำดับ ซึ่งรายได้อื่นๆ นั้นมีสัดส่วน 87% มาจากหนี้สูญได้รับคืน โดยมีอัตราดอกเบี้ยรับเฉลี่ย 19.09% ลดลงจาก 19,16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีต้นทุนทางการเงิน 2.97% ลดลงจาก 3.28% ส่งผลให้ส่วนต่างดอกเบี้ย (Net Interest Margin) เพิ่มเล็กน้อยจาก 15.88% เป็น 16.13% ในปีนี้

ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เพิ่มขึ้น 9% เป็นผลจากค่าใช้จ่ายบริหารเพิ่มขึ้นเพียง 1% ขณะที่คุณภาพพอร์ตของลูกหนี้ที่ดีจึงไม่เพิ่มสำรองหนี้สงสัยจะสูญ ทำให้มูลค่าหนี้สงสัยจะสูญลดลง 16% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและค่าใช่จ่ายทางการเงินที่เป็นต้นทุนลดลง 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

งวด 9 เดือนปี 2561 มีรายได้รวมขยายตัว 9.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณการใช้จ่าย่าผนบัตร ยอดลูกหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลขยายตัว ขณะเดียวกันบริษัทเข้มงวดในมาตรฐานระเบียบการอนัมั้ติบัตรภายใต้กรอบการอนุมัติที่เหมือสมกับความเสี่ยงของกลุ่มเป้าหมายแต่ละประเภท รวมถึงมีแนวทางติดตามหนี้มีประสิทธิภาพ ทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในภาวะที่ต่ำกว่าอุตสาหกรรม