HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดร่วง 11.95 จุด เช่นเดียวกับตลาดเอเชียหลังยอดค้าปลีกจีนต่ำกว่าคาด เศรษฐจีนยังชะลอตัวอยู่ อีกทั้งยังได้แรงถ่วงจากหุ้นในกลุ่ม CP ที่มีผลต่อดัชนีฯเกือบ 9 จุด นำดิ่งโดย CPAXT หลังเข้าไปลงทุนธุรกิจอสังหาฯ หวั่นกระทบกำไร-ต้องเผชิญกับภาระดอกเบี้ยจ่ายหนัก นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,380.74 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 3,362.66 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้แกว่งตัว แนวรับ 1,412 แนวต้าน 1,430 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 16 ธ.ค.67 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,419.72 จุด ลดลง 11.95 จุด หรือ -0.83% มูลค่าซื้อขาย 40,481.64 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,424.68 จุด ต่ำสุด 1,414.86 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,270.74 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 288.83 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 3,362.66 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,380.74 ล้านบาท
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวลงเช่นเดียวกับตลาดในภูมิภาคเอเชียที่ติดลบกันเกือบทุกตลาด หลังยอดค้าปลีกของจีนออกมาต่ำกว่าคาด แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนยังชะลอตัวอยู่ กอปรกับไทยก็มีแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่ม CP ที่ปรับตัวลง นำโดยหุ้น CPAXT ดิ่งแรงหลังจะเข้าไปลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ต้องเสียดอกเบี้ยจำนวนมาก ส่งผลให้หลายโบรกเกอร์ต่างปรับลดประมาณการลง ซึ่งเป็น Sentiement ลบดึงให้เกิดแรงขายยกกลุ่ม CP ทั้ง CPAXT, CPALL, CPF สามหุ้นนี้รวมกันแล้วมีผลต่อดัชนีฯเกือบ 9 จุด ดังนั้นจึงแนะนำให้ Wait & See สำหรับหุ้นในกลุ่ม CP เพื่อรอดูทิศทางที่ชัดเจนอีกที
พร้อมให้รอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคาดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และปี 2568 คาดเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้น้อยลง ส่วนในประเทศรอติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.) ตลาดคงจะแกว่งตัว โดยมีแนวรับ 1,412 จุด แนวต้าน 1,430 จุด
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า วันนี้ตลาดได้รับแรงถ่วงจากหุ้นในกลุ่ม CP โดยหุ้น CPAXT, CPALL และ CPF ต่างปรับตัวลงมีผลต่อดัชนีฯเกือบ 9 จุด หลังเข้าไปลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ทำให้ต้องมีภาระดอกเบี้ยจ่ายเยอะ จึงยังไม่ควรเข้าไปลงซื้อ อีกทั้งหลายโบรกเกอร์ปรับลดประมาณการด้วย
CPAXT ประกาศจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ชื่อ “Axtra Growth Plus” ด้วยทุนจดทะเบียน 8,390 ล้านบาท โดย CPAXT ถือหุ้น 95% และ MQDC ถือหุ้น 5% บริษัทใหม่นี้จะเป็นผู้ถือหุ้น 100% ในโครงการ Happitat at the Forestias ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูส ประกอบด้วยอาคารศูนย์การค้า 3 แห่ง และพื้นที่สำนักงานให้เช่า โครงการนี้จะเพิ่มพื้นที่ค้าปลีกประมาณ 5,000 ตร.ม. และพื้นที่เช่า (NLA) สำหรับสำนักงานมากกว่า 43,000 ตร.ม. และพื้นที่ค้าปลีกอีกกว่า 24,000 ตร.ม. โดยคาดว่าโครงการจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปลายปี 2568
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงลบต่อดีลนี้ด้วยเหตุผล 3 ประการ คือ 1. ผลกระทบเชิงลบต่อกำไรของ CPAXT ในปี 2568 ลดลง 3% และการขาดทุนเพิ่มเติมในช่วงเริ่มดำเนินงาน 2. การแข่งขันที่รุนแรงในพื้นที่บางนา ซึ่งรวมถึง Mega Bangna, Central Bangna และ Bangkok Mall ที่คาดว่าจะเปิดในปี 2570 และ 3. ความกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการใหม่ที่เป็น “ตลาดใหม่” สำหรับ CPAXT ในด้านโครงการแบบมิกซ์ยูสและพื้นที่สำนักงานให้เช่า
สำหรับผลต่อ CPALL คาดว่าจะมี Sentiment เชิงลบต่อทั้ง CPAXT และ CPALL ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ CPAXT (ถือหุ้น 59.93%) อย่างไรก็ตาม คาดว่า Sentiment เชิงลบต่อ CPALL จะมีผลกระทบต่อกำไรสุทธิน้อยมาก จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น CPALL หากราคาหุ้นอ่อนตัว
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
CPALL ปิดที่ 59.00 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ -5.60% มูลค่าซื้อขาย 6,503.05 ล้านบาท
CPAXT ปิดที่ 28.25 บาท ลดลง 6.50 บาท หรือ -18.71% มูลค่าซื้อขาย 3,642.95 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 151.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.33% มูลค่าซื้อขาย 2,097.01 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 24.10 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ -1.63% มูลค่าซื้อขาย 1,910.52 ล้านบาท
BH ปิดที่ 190.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ -1.30% มูลค่าซื้อขาย 1,182.02 ล้านบาท