‘ชนะชัย’โอน IVF 17 ล้านหุ้นให้พี่-น้อง ‘เกศิณี’ ให้แม่ 3.68 ล้านหุ้น ซื้อในตลาด 5 แสนหุ้น

HoonSmart.com>>”ชนะชัย จุลจิราภรณ์”  ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง”อินสไปร์ ไอวีเอฟ”(IVF) โอนหุ้นออกนอกตลาด 2 ล็อต 14 ล้านหุ้น และ 3 ล้านหุ้น ให้พี่ชาย-น้องชาย วันที่ 9 ธ.ค. สองวันก่อนหุ้นเข้าเทรด mai  และ”เกศิณี กุลดิลก” ซีอีโอ โอน  3.68 ล้านหุ้น ให้แม่ หลังจากนั้นซื้อกลับในตลาดหลักทรัพย์  5 แสนหุ้น ราคา 1.98 บาท ส่งสัญญาณเชิงบวก ตอกย้ำเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตระยะยาว มุ่งขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตะวันออกกลาง  และขยายธุรกิจ Wellness  

ชนะชัย จุลจิราภรณ์

นาย ชนะชัย จุลจิราภรณ์ กรรมการและ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งของ บริษัทอินสไปร์ ไอวีเอฟ (IVF) รายงานก.ล.ต.ว่า วันที่ 9 ธ.ค.2567 ได้โอนหุ้นออก 2 ล็อต จำนวน 14 ล้านหุ้น  และ 3 ล้านหุ้น รวม 17 ล้านหุ้น เหลือจำนวน 157,330,600 หุ้น โดยทำรายการนอกตลาดหลักทรัพย์ (โอนหุ้นจากบัญชี 600 ที่ TSD)

สำหรับการโอนจำนวน 14 ล้านหุ้น เป็นการให้กับนายครรชิต จุลจิราภรณ์ ซึ่งเป็นพี่ชาย  ส่วนอีก 3 ล้านหุ้น ให้กับน้องชาย นายฐิติวัชร์ จุลจิราภรณ์ และเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ

ในวันเดียวกัน นางสาว เกศิณี กุลดิลก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) IVF ได้โอนหุ้นออกจำนวน  3.68 ล้านหุ้นทำรายการนอกตลาด  (โอนหุ้นจากบัญชี 600 ที่ TSD) ให้กับนาง อุทัยรัตน์ กุลดิลก (มารดา) คงเหลือจำนวน 28 ล้านหุ้น

ทั้งสองคนทำการโอนหุ้นออก ก่อนที่หุ้น IVF จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) วันแรกวันที่ 11 ธ.ค.2567 ซึ่งเปิดที่ราคา 2.70 บาท ลดลง 0.40 บาทหรือ 12.90% ปิดที่ 2.02 บาท ร่วงลง 1.08 บาท หรือ-34.84% เมื่อเทียบกับราคาขาย IPO ที่ระดับ 3.10 บาท  ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 534 ล้านบาท และราคายังคงไหลลงต่อเนื่อง ในวันที่สองปิดที่ 1.96 บาท ลดลง 0.06 บาทหรือ -2.97% และวันที่สามปิดที่ 1.86 บาท ลดลง 0.10 บาทหรือ -5.10% บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 107 ล้านบาท

เกศิณี กุลดิลก

นางสาว เกศิณี รายงานก.ล.ต.ว่า ว้นที่ 12 ธ.ค. 2567 ได้ซื้อหุ้น IVF ในตลาดจำนวน 500,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 1.98 บาท ทำให้มีหุ้นทั้งสิ้น 28.5 ล้านหุ้น

น.ส.เกศิณี ได้ซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ 5 แสนหุ้น ถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวก ตอกย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตระยะยาวของ IVF ตามกลยุทธ์การสร้าง New S-Curve ที่มุ่งเน้นการขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก และการขยายธุรกิจ Wellness ซึ่งจะช่วยส่งเสริมอัตราความสำเร็จของการตั้งครรภ์ให้ผู้ใช้บริการ และเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโตสูง

สำหรับ VF มีจุดแข็งด้านอัตราความสำเร็จในการทำ IVF ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และมาตรฐานระดับโลกที่ได้รับการยอมรับ ทั้งยังอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายผลักดัน Medical Hub ของรัฐบาล

บริษัท อินสไปร์ ไอวีเอฟ  เป็นศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากที่มุ่งเน้นการให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากล ผลงาน  9 เดือนแรกของปี 2567 สร้างรายได้รวม 84.95 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 16.72 ล้านบาท สะท้อนถึงศักยภาพที่แข็งแกร่ง

ส่วนเงินทุนที่ได้จากการระดมทุนจากการขาย IPO นำไปใช้ขยายสาขาเพื่อเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ และเสริมศักยภาพธุรกิจ Wellness ตอบรับเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง และเสริมโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ให้กับผู้ใช้บริการ เพื่อสร้างฐานรายได้ที่มั่นคง รวมถึงผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจให้กับนักลงทุน ด้วยปัจจัยบวกทั้งหมดนี้ จึงถือเป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ภายใต้การนำทัพของผู้บริหารที่มั่นใจในอนาคตที่สดใสของ IVF

———————————————————————————————————————————————————–