HoonSmart.com>> “สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์” (SNPS) ปลื้มขายหุ้นไอพีโอหมดเกลี้ยง 105 ล้านหุ้น ตอกย้ำผู้นำด้านสารสกัดสมุนไพรที่ครอบคลุมการให้บริการอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตามเทรนด์การดูแลรักษาสุขภาพที่กำลังมาแรง เตรียมเข้าเทรดใน SET ดีเดย์ 29 พ.ย.67
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายของบริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ (SNPS) เปิดเผยว่า ผลการจองซื้อหุ้นไอพีโอของ SNPS จำนวน 105 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท ในราคาหุ้นละ 4.20 บาท ระหว่างวันที่ 21-22 และ 25 พ.ย. 2567 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนมั่นใจปัจจัยพื้นฐานของ SNPS จากการที่ SNPS เป็นผู้นำในการสกัดสารสกัดสมุนไพรมาตรฐานที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 25 ปี ที่ให้บริการด้านสมุนไพรอย่างครบวงจร และมุ่งเน้นด้านการวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งยังมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และในงวด 9 เดือนแรกปี 2567 มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 40.27% และอัตรากำไรสุทธิที่ 14.67% ถือว่ามีความสามารถในการทำกำไรอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
“SNPS ยังมีศักยภาพในการเติบโตจากเทรนด์การดูแลรักษาสุขภาพจากการหันมาใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติซึ่งไม่ใช่แค่เพียงกระแสในประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นเมกะเทรนด์ที่ผู้บริโภคทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบจากธรรมชาติ เมื่อผนวกกับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต จึงถือว่า SNPS เป็นหุ้นน้องใหม่ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และสามารถเติบโตอย่างมั่นคงได้ในระยะยาว โดยหุ้น SNPS เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ (PERSON) ในวันที่ 29 พ.ย.2567”
ด้านดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ (SNPS) กล่าวปิดท้ายว่า ต้องขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจในหุ้น SNPS สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ โดยบริษัทฯ พร้อมต่อยอดธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนหนึ่งจะนำไปต่อยอดธุรกิจด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีการสกัดขั้นสูง Phytoextraction Technology และวิจัย พัฒนา และผลิตผลิตภัณฑ์ยาพัฒนาจากสมุนไพร อาหารทางการแพทย์หรืออาหารที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคทีต้องการผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ เช่น ลดน้ำตาลในเลือด ปรับสมดุลการย่อยอาหาร สร้างภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการคลื่นไส้วิงเวียน เป็นต้น ซึ่งถือเป็น New S-Curve ที่สำคัญในอนาคต รวมถึงนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ครั้งนี้ถือเป็นการปลดล็อกศักยภาพในการเติบโต เพื่อรองรับการขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้ และสร้างการเติบโตด้วยความพร้อมของฐานเงินทุน รวมถึงโอกาสทางธุรกิจที่จะตามมาอีกมากมาย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและบริษัทได้กำหนดไว้” ดร.ธีรญา กล่าว