HoonSmart.com>> 7 โบรกฯ มองบวก “NER” มั่นใจผลงานไตรมาส 4/67 เติบโตตามเป้า “หยวนต้า” คาดกำไรนิวไฮ 650 ล้านบาท พร้อมคาดการณ์เงินปันผลครึ่งปีหลัง 0.38 บาท แนะสะสมหุ้นเข้าพอร์ต คงมุมมองเชิงบวกต่อราคายาง ให้เป้าปี 68 ที่ 7.30 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จำนวน 7 แห่งวิเคราะห์หุ้นบริษัท นอร์ทอีสท์ รับเบอร์ (NER) โดย บล.หยวนต้า มองผลการดำเนินงาน NER ผ่านจุดต่ำสุดแล้วและคาดการณ์กำไรไตรมาส 4/67 มีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่ที่ราว 650 ล้านบาท +/ เนื่องจาก ASP ที่สูงขึ้นสอดคล้องกับต้นทุนที่สูงขึ้นมากกว่าต้นทุนและ ASP ในไตรมาส 3/67 ทำให้เราคาดว่า GPM ในไตรมาส 4/67 จะกลับมาที่เลขสองหลักได้ นอกจากนี้ปริมาณขายบางส่วนส่งมอบล่าช้ากว่าแผนมาจากในไตรมาส 3/67 และบริษัทยังคงเป้าปริมาณขายที่ 4.4 แสนต้นในปีนี้ ทำให้ไตรมาส 4/67 จะมีปริมาณส่งมอบถึง 1.3 แสนตัน สูงที่สุดของปี
หากกำไรไตรมาส 4/67 ใกล้เคียงกับที่เราประเมินจะส่งผลให้กำไรปกติปี 2567 อยู่ที่ 1,839 ล้านบาท จะต่ำกว่าประมาณการกำไรทั้งปี 2567 ปัจจุจุบันของเราราว 7% แต่เรายังคงประมาณการกำไรปี 2568 เนื่องจากยังคงมุมมองเชิงบวกต่อราคายาง และปี 2568 จะมีสัดส่วนรายได้จากยาง EUDR ในระดับที่มีนัยสำคัญมากขึ้น หนุนทั้งรายได้และ GPM
พร้อมกันนี้ยังคงคาดการณ์เงินปันผลช่วงครึ่งปีหลัง 67 ที่ 0.38 บาท/หุ้น เนื่องจากในแง่ของกำไรสุทธิซึ่งใช้พิจารณาในการจ่ายเงินปันผลของบริษัทยังใกล้เคียงเราคาด
บล.หยวนต้า คงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 7.30 บาท ปัจจุบันซื้อขายที่ PER68 ต่ำเพียง 5.0 เท่า และคงคำแนะนำ ซื้อ เชิงกลยุทธ์คาดว่าตลาดจะตอบรับเชิงลบในช่วงแรกจากกำไรปกติที่ต่ำกว่าคาดมาก แต่เป็นจุดต่ำสุดของปี ราคาหุ้นไม่แพง มีปันผลสูง และไตรมาส 4/67 มีโอกาส New high จึงน่าสนใจสะสมที่แนวรับ 4.80 บาท และ 4.72 บาท ตามลำดับ
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) เผย NER มีกำไรปกติไตรมาส 3/67 ต่ำกว่าคาด จากต้นทุนยางเฉลี่ยสูงขึ้นกดดัน GPM แต่ยังคงคำแนะน้า “ถือ” แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 5.50 บาท (เดิม 5.70 บาท) อิง 2025E PER 6x(5-yr average) ตามการปรับประมาณการลง รวมถึงปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2568 NER รายงานกำไรปกติ 3Q24 (ไม่รวมกำไร Fx) ที่ 221 ล้านบาท (-35% YoY.-55% QoQ) ต่ำกว่าเราประเมินที่ 390 ล้านบาท กำไรปกติที่ปรับตัวลงสาเหตุหลักจาก 1) GPM อยู่ที่เพียง 8.3% ลดลงจาก 3Q23 ที่ 10.9%และ 2024 ที่ 12.4% เป็นผลจากต้นทุนยางโดยรวมสูงขึ้น ซึ่งบริษัทบันทึกโดยวิธีถัวเฉลี่ย ขณะที่ราคาขาย ซึ่งเกิดจากการขายล่วงหน้าใน 5 เดือนก่อนหน้า ยัปรับตัวขึ้นได้ไม่มาก และ 2) SG&A สูงขึ้นจากค่าขนส่งและค่ากองทุนสงเคราะห์สวนยางตามการส่งออกมากขึ้น
“เราปรับกำไรปกติปี 67/68 ลง -15%/-10% เป็น 1.5 พันล้านบาท/1.7 พันล้านบาท (-5%YOY/+16% YoY) โดยหลักเพื่อสะท้อนการปรับสมมติฐาน GPM ลง สำหรับไตรมาส 4/67 เบื้องต้นคาดการณ์กำไรปกติจะซะลอ YoY จากปริมาณขายลดลงจากฐานสูง แต่มีโอกาสฟื้นตัว QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล”บล.ดาโอ ระบุ
ด้านราคาหุ้น underperform SET -7% ใน 1 เดือน ตามทิศทางราคายางที่ปรับตัวลง ทั้งนี้เราแนะนำเพียง “ถือ” จากผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 67 กลับมาชะลอ HoH ขณะที่ล่าสุดราคายาง RSSS3 ของไทยปรับตัวลง -17% MoM หลังการเลื่อนใช้กฎหมาย EUDR และอุปทานสูงขึ้น นอกจากนี้การขยายกำลังการผลิตจากโรงงานใหม่ในโกตติวัวร์และไทย คาดจะเริ่มได้เร็วสุดในปี 2569
บล.กรุงศรี เผย NER มีกำไรสุทธิไตรมาส 3/67 ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด จึงมีมุมมอง “Negative” ต่อกำไรสุทธิไตรมาส 3/67 ของ NER ที่ 361 ล้านบาท (+16%y-y,-25%g-q) ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด -6%/-8% ตามลำดับ โดยหากไม่รวม FXgain และ hedging gain จะมีกำไรปกติที่ 221 ล้านบาท (-35%y-y, -55%q-q) เพราะGPM ต่ำกว่าคาด ในขณะที่ยอดขายและ SG&A/sales ใกล้เคียงคาด
สำหรับโมเมนตั้ม ไตรมาส 4/67 คาดกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น y-v. g-q จากปริมาณการขายและราคาขายเพิ่มขึ้น q-q ตามร่าคา SICOM ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนในสินค้าคงเหลือมีแนวโน้มคงที่ จึงคาด GPM เพิ่มขึ้น g-q อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของบริษัทค่อนข้างท้าทายเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน 9 เดือนปี 67 จึงมีโอกาสปรับประมาณการหลังได้รับข้อมูลเพิ่มจากการประชุมนักวิเคราะห์ คงคำแนะนำ Trading buy ราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 5.85 บาท
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มอง NER แม้ไตรมาส 4/67 คาดกำไรปกติดีขึ้น QoQ เพราะจะมีส่งบอบยางที่เลือนจาก 3067 ราว 5 พันตัน และคาดราคาขายยางเฉลี่ยสูงขึ้น QoQ หลังเริ่มใช้ราคายางช่วง 2Q-3Q67 ซึ่งปรับขึ้นแรง หนุนให้คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะปรัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ดีไตรมาส 4/67 คาดกำไรปกติจะอ่อนตัว YoY หลังมีความเสี่ยงปริมาณขายยางจะลดลงและอัตรากำไรขั้นต้นจะอ่อนตัวจากมีต้นทุนเฉลี่ยยางสูงขึ้น อีกทั้งกำไรปกติ 9 เดือนปี 67 คิดเป็นเพียง 68% ของประมาณการทั้งปีซึ่งดำเกินไป
“เราจึงปรับลดประมาณการ โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาดปี 2567 NER มีกำไรปกติ 1.595 ล้านบาท ทรงตัว YoY แต่จะกลับมาโต 8%YoY ในปี 2568 จากราคายางที่ทรงตัวสูงจากอุปทานจำกัดและมีแผนเผนเพิ่มลูกค้าใหม่”
พร้อมประเมินราคาเป้าหมายปี 2568 ที่หุ้นละ 5.00 บาท (EPS อิงจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากใช้สิทธิแปลงสภาพ NER-W2 ซึ่งมี 308 ล้านหน่วย และกำหนดให้ใช้สิทธิเท่ากัน 4 ครั้งในเวลา 2 ปี พร้อมอิงค่าเฉลี่ย PER ที่ 6.0 เท่าเช่นเดิม) ซึ่งใกล้เคียงกับราคาหุ้นปัจจุบัน อย่างไรก็ดี NER มีจุดเด่นที่จ่ายเงินปันผลสูง โดยคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปีนี้นี้ห้นละ 0.36 บาท คิดเป็น Div. Yield ปีละ7.2% ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำ “Neutral” เพื่อรับเงินปันผล
ความเสี่ยงสำคัญ คือ ความผันผวนของราคายายางพารา, การถดถอยของเศรษฐกิจโลกและจีน,ภาวะภัยแล้งจากปรากฎการณ์เอลนีโญอาจกระทบผลผลิต, การแข็งค่าของเงินบาท ส่วนความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ การแปรรูปยางอาจก่จก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศและเกิดน้ำเสียได้ (E)อย่างไรก็ดี บริษัทบริหารจัดการกระบวนการผลิตอย่างเป็นระบบ และมีการติดตามผลต่อเนื่อง
บล.บัวหลวง คาดแนวโน้มผลดำเนินงาน NER ไตรมาส 4/67 จะกลับมาสดใสที่สุดของปีนี้ ข้อมูลจากผู้บริหารในงานพบปะนักวิเคราะห์ มีมุมมองเป็นบวก จากทั้งราคาขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ใกล้ๆ 70 บาท ต่อ กก. และปริมาณการขายที่คาดการณ์ที่ 130K ตัน หรือเพิ่มทั้ง YOY และ QoQ จะทำให้ผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง ซึ่งเราคาดว่าจะเป็นกำไรที่ดีที่สุดของปีนี้
บล.พาย คงแนะนำ “ซื้อ” เพราะมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มปริมาณขายในช่วงไตรมาส 4/67 ที่คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี จากการได้รับผลดีจากราคายางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ย. เป็นต้นมา
ขณะที่แนวโน้มในปื 2568 NER ตั้งเป้ายอดขายที่ระดับ 500,000 ตัน(+14%YoY) รวมถึงราคาขายมีโอกาสเห็นระดับ 70 บาท/กก. ซึ่งจะหนุนให้ผลประกอบการเติบโต่อได้โดยเบื้องต้นเราคาดกำไรสุทธิปี 2568 ที่ระดับ 2,005 ล้านบาท (+6%YoY นับเฉพาะกำไรปกติ) ส่วนผลประกอบการงวดไตรมาส 3/67 มีกำไรปกติ 221 ล้านบาท (-35%YoY,-55%QoQ) ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงกลางไตรมาสทำให้เป็นปัจจัยกดดันกำไรขั้นต้นให้ลดลงเหลือเพียง 8% จาก 10.9% ใน ไตรมาส 3/66 และ 12.4% ในไตรมาส 2/67
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/67 จะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยหนุนจากการรับรู้ราคาขาย ที่สอดคล้องกับต้นทุนมากชึ้น เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น จะถูกรับรู้ในงวดไตรมาส 3/67 ไปแล้ว ทำให้ในงวดไตรมาส 4/67 จะกลับมาเป็นขาที่จะเห็นผลบวกจากราคาขายที่สูงขึ้นแล้ว ประกอบกับ ปริมาณการขายคาดฟื้นตัวแรง พลิกกลับมาที่ราว 1.2-1.3 แสนตันได้ คาดกำไรปกติไตรมาส 4/67 จะกลับมาเติบโตได้ดีขึ้นทั้ง qoq และ yoy
NER รายงานกำไรปกติงวดไตรมาส 3/67 ที่ 221 ล้านบาท ลดลง 35% yoy และ 55% qoq ปัจจัยกดดันหลักมาจาก gross margin งวดไตรมาส 3/67 ที่ 8.3% ลดลงจาก 12.4% และ 10.9% ในงวดไตรมาส 4/67 และไตรมาส 3/66 ตามลำดับ โดย gross margin ที่หดตัวแรงมาจากต้นทุนเฉลี่ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ในงวดงวดไตรมาส 3/67 แต่ต้นทุนในส่วนนี้ จะเป็นส่วนที่ผลิตเก็บไว้ขายในงวดไตรมาส 4/67 ทำให้เกิดความไม่สอดคล้องในการรับรู้ต้นทุน VS ราคาขายในงวดงวดไตรมาส 3/67 กดดัน gross margin ปรับตัวลดลงแรงระยะสั้น
———————————————————————————————————————————————————–