HoonSmart.com>>ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ชี้มุมมองทิศทางอัตราดอกเบี้ยโลกปีหน้าเปลี่ยนจากคาดต่ำกว่า 3.5% เป็นสูงราวกับ 3.5%-4% คาดปี’68 ไทยใช้นโยบายการเงินเพิ่ม
ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย กรรมการผู้จัดการ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) กล่าวในงาน AI กับการวางแผนการเงิน หัวข้อ “แนวโน้มและปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย ปี 2568 ” กล่าวว่า หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดีและนโยบายที่หาเสียงไว้ ทำให้นักวิเคราะห์เริ่มมีมุมมองทิศทางดอกเบี้ยของเฟดเปลี่ยนไปในมุมมองว่าอาจจะมีการลดดอกเบี้ยลงไม่มากน่าจะอยู่ราว 3.5%-4. 0 % จากเดิมที่คิดว่าจะอยู่ต่ำกว่า 3.5%
อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐอเมริกาจะอยู่ราว 4.00% ยังมีช่วงห่างสูงเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรไทยอยู่ที่ 2.5% อาจจะมีผลต่อเม็ดเงินลงทุน ด้านค่าเงินบาทไทยปี 2568 จะเริ่มอ่อนค่าลงส่งผลดีต่อไทย
ขณะที่ ไทยพึ่งพาการส่งออกไปสหรัฐอเมริกา 18% เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้ดุลการค้าสหรัฐฯ แต่ขาดดุลการค้ากับจีน มีการมองว่าไทยนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อผลิตแล้วส่งออกไปสหรัฐฯ อาจจะถูกกีดกันการนำเข้าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย
อย่างไรก็ตาม จะส่งผลดีในการย้ายฐานการผลิตของจีนมาไทย ซึ่งไทยต้องทำให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ให้กับคนไทย ต้องทำให้เกิดธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องภายในประเทศ เกิดระบบนิเวศน์ในประเทศจึงจะได้ประโยชน์
ด้านเศรษฐกิจไทยในระยะยาวกรณีไม่ทำอะไรเลยคาดว่าจะโตได้ในระดับ 2.5% ภาย 2-3 ปี และลดลงเหลือ 2% ต่อปีหลังจากนั้น
ทั้งนี้ ไทยต้องหาอุตสาหกรรมใหม่ในการขับเคลื่อนประเทศให้เศรฐกิจไทยโตได้สูงกว่า 2.5%
“จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้รายได้รัฐบาลไทยลดลงเรื่อยๆ อาจเห็นรัฐบาลมีการหารือกันเรื่องขึ้นภาษีเพื่อหาเงินมาใช้ แม้หนี้สาธารณะจะอยู่ที่ 64% แต่รูมการก่อหนี้จำกัดขึ้นเรื่อย และอาจจะเห็นการพูดถึงนโยบายการเงินมากขึ้น เพราะนโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจแผ่วลงแล้ว “ดร.พิพํฒน์ กล่าว