โดย…สาธิต บวรสันติสุทธิ์, CFP นักวางแผนการเงิน
คำถามประจำวัน ลองตอบกันเล่นๆนะ
“ถ้าวันนี้เรากลับบ้าน หากพบแมลงสาบเดินเล่นในบ้าน 1 ตัว บ้านเรามีแมลงสาบกี่ตัว?”
……………….กี่ตัวครับ
แล้วเรื่องนี้เกี่ยวกับทฤษฎีแมลงสาบอย่างไร เกี่ยวข้องตรงนี้ครับ
หากลองถามเพื่อนๆดูว่า “แมลงอะไรที่ขยะแขยงที่สุด” รับรอง 1 ใน 3 จะตอบ “แมลงสาบ” ด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารังเกียจและกิตติศัพท์ในความสกปรก แมลงสาบไม่ใช่น่าขยะแขยงอย่างเดียว แมลงสาบยังเป็นพาหะนำเชื้อโรคติดต่อมาสู่คนเช่นเดียวกับแมลงวัน อาทิ โรคอุจจาระร่วง บิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ พยาธิปากขอ พยาธิไส้เดือนตัวกลม พยาธิตืดแคระ พยาธิตืดวัว โรคเรื้อน กาฬโรค ตับอักเสบ หอบหืด ภูมิแพ้เป็นต้น
ไม่ใช่แค่นั้น แมลงสาบยังเป็นสัตว์ที่เอาตัวรอดได้ดีและอยู่คู่กับโลกของเรามาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว และ เยอะมากๆ เคยอ่านพบว่า แมลงสาบตัวเมีย 1 ตัวสามารถวางไข่ได้ถึง 400 ฟองทำให้แมลงสาบเป็นสัตว์ประเภทแรกๆที่ทุกคนจ้องกำจัดทิ้ง ดูง่ายๆ บนกระป๋องยาฆ่าแมลงทุกยี่ห้อ จะมีรูปแมลงสาบประกอบด้วยเสมอ ดังนั้น ถ้าบ้านไหนเจอแมลงสาบแสดงว่าบ้านคุณกำลังถูกบุกด้วยกองทัพแมลงสาบแล้ว หากไม่รีบกำจัดแต่เนิ่นๆ วันกองทัพแมลงสาบบุกอาจน่ากลัวกว่าที่คิด แมลงสาบจึงเป็นเหมือนคำสาปสำหรับทุกบ้านที่กลัวกันเลยว่าอย่าได้เจอจะดีที่สุด
สรุป ก็คือ แมลงสาบทั้งน่าขยะแขยง และมีโทษ ทฤษฎีแมลงสาบจึงเอาลักษณะของแมลงสาบที่เป็นตัวไม่ดี มาเป็นตัวแทนของสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ ไม่ว่า ข่าวร้าย การโกง หุ้นกู้เบี้ยวหนี้ โกงหุ้น ฯลฯ ว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้ยินข่าวร้ายดังกล่าว ก็อย่าประมาทคิดว่าข่าวร้ายนั้นจะมีแค่ข่าวเดียว หุ้นกู้ที่เบี้ยวหนี้จะมีแค่บริษัทเดียว หรือหุ้นที่ผู้บริหารโกงบัญชีจะมีแค่บริษัทเดียว เป็นตัน
ทุกวันนี้ เราเห็นแมลงสาบโผล่ออกมาเยอะ แล้วก็ถี่มาก ไม่ว่าจะเป็นข่าวเกี่ยวกับการหลอกลวงของดารา ทนาย หมอดูฮวงจุ้ย ฯลฯ ซึ่งต่างก็เป็นบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียง ทำให้อดคิดต่อไม่ได้ว่า “มันมีแค่นี้” หรือ “ยังมีอีก” แต่ถามใจตัวเองแล้ว เชื่อว่า ไม่ได้มีแค่นี้แน่นอน ต้องขอขอบคุณความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีที่ทำให้ข้อมูลต่างๆเผยแพร่ได้อย่างรวดเร็ว ขอบคุณสื่อบางสื่อที่ทำหน้าที่เป็นเวทีให้กับประชาชนได้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม แต่ดาบก็มี 2 คม เราในฐานะคนเสพสื่อก็ต้องระมัดระวัง ใช้สติในการพิจารณาด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม การรอให้แมลงสาบโผล่ออกมา เราค่อยระวังตัว อาจไม่ทัน เพราะเหยื่ออาจเป็นเราเอง ดังนั้นทฤษฎีแมลงสาบจึงมีเป้าหมายที่จะเตือนให้เราอย่าประมาทกับเหตุการณ์ร้ายต่างๆที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเรา ว่า เมื่อเกิดกับคนอื่นๆแล้ว จะไม่เกิดกับเรา เหตุการณ์ร้ายๆไม่ใช่แค่ข่าวทุจริต หลอกลวง แต่หมายถึงข่าวร้ายทั่วๆไป อย่างเช่น การเป็นมะเร็ง ที่วันนี้เป็นกันเยอะมาก อย่างประมาทคิดว่าตัวเองจะไม่เป็น แล้วอย่างนี้จะให้ทำยังไงดี
ผมชอบแนวคิดของหนังสือ “Only the Paranoid Survive” หรือแปลง่ายๆว่า “มีแต่คนขี้ระแวงเท่านั้นที่จะรอด” แนวคิดดังกล่าวมาจากหนังสือเลื่องชื่อของซีอีโอระดับตำนานผู้ล่วงลับไปแล้วของอินเทลอย่าง แอนดรูว์ โกรฟ ประโยคเต็มนั้น เขากล่าวว่า
Success breeds complacency. ความสำเร็จ ออกลูกเป็น ความนิ่งนอนใจ Complacency breeds failure. ความนิ่งนอนใจ ออกลูกเป็น ความล้มเหลว Only the paranoid survive. ผู้ที่หวาดระแวงเท่านั้นที่จะอยู่รอด
สรุปสุดท้าย ก็คือ อย่าประมาท ดีที่สุด เวลาเจอข่าวร้ายๆ คำตอบก็คือ ให้มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนอื่นเป็นจดหมายเตือน อย่าประมาท เตรียมพร้อมดีกว่าไม่ได้เตรียม ป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าเกิดแล้วมาแก้ไข