หุ้นปิดลบ 7.49 จุด ปัจจัยใน-นอกปท.กดดัน ต่างชาติขาย 970 ลบ.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดลบ 7.49 จุด เผชิญแรงขายหุ้นรายตัว หลังไร้ปัจจัยบวกหนุน เงินบาทยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่ากดดันเงินไหลออก งบฯบริษัทส่วนใหญ่ต่ำกว่าคาด หลายปัจจัยใน-นอกประเทศกดดันให้นักลงทุนปรับพอร์ต นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 970.48 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,105.43 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวไซด์เวย์ มีลุ้นรีบาวด์หลังปิดยืนเหนือ 1,440 แนวรับ 1,410-1,400 แนวต้าน 1,460-1,470 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 15 พ.ย.67 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,442.63 จุด ลดลง 7.49 จุด หรือ -0.52% มูลค่าซื้อขาย 48,853.08 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,458.32 จุด ต่ำสุด 1,436.79 จุด

นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 970.48 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 88.43 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,105.43 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 46.53 ล้านบาท

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ยังเห็นแรงขายอยู่ในหุ้นเป็นรายตัว แล้วโยกเข้าไปหุ้นในกลุ่มธนาคาร และอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีแค่ CCET ตัวเดียวที่ช่วยหนุนตลาด เนื่องจากตลาดก็ไม่ได้มีปัจจัยบวกเข้ามา ขณะเดียวกันหุ้นในกลุ่ม GULF ปรับตัวลงกดดันดัชนีฯ

ทั้งนี้ ตลาดได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ที่สูง และเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ส่งผลให้เงินบาทยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า กดดันเงินไหลออก และงบฯของบริษัทในประเทศส่วนใหญ่ก็ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ก็มีการโยกออกเข้าหาหุ้นที่กำไรยังดี

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าตลาดคงจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ มีลุ้นรีบาวด์หลังปิดยืนเหนือ 1,440 จุด พร้อมให้แนวรับ 1,410-1,400 จุด แนวต้าน 1,460-1,470 จุด สัปดาห์หน้าติดตาม GDP ของไทยที่จะออกมาในวันจันทร์ที่ 18 พ.ย. และติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันอังคารที่ 19 พ.ย. ประเด็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีจะออกมาหรือไม่ อย่างไร

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
DELTA ปิดที่ 163.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -0.91% มูลค่าซื้อขาย 3,058.61 ล้านบาท
GULF ปิดที่ 61.00 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ -5.43% มูลค่าซื้อขาย 2,688.98 ล้านบาท
BH ปิดที่ 207.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -1.43% มูลค่าซื้อขาย 2,660.95 ล้านบาท
CCET ปิดที่ 9.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.05 บาท หรือ +12.88% มูลค่าซื้อขาย 2,519.46 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 63.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -1.16% มูลค่าซื้อขาย 2,067.70 ล้านบาท