PRM งบสวย !! เติบโตทุกมิติ …9 เดือนกวาดกำไร 1,652 ลบ.พุ่ง 20%

HoonSmart.com >> “พริมา มารีน” เปิดงบ Q3/67 รายได้-กำไร และอัตรากำไรขั้นต้นเติบโต เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โชว์  9 เดือน กำไร 1,652.28 ล้านบาท โต 20% 

บริษัท พริมา มารีน (PRM) รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 3 ไตรมาส 3/67 มีรายได้การให้บริการ รวม 2,170.5 ล้านบาท   กำไรสุทธิ 449.77 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.19 บาท เพิ่มขึ้น 121.28 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น  36.92% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 328.49 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น  0.13 บาท

งวด 9 เดือน มีรายได้การบริการ 6,689.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,652.28 ล้านบาท กำไรต่อหุน 0.69 บาท เพิ่มขึ้น 275.26 ล้านบาท หรือ 20% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 1,377 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น  0.55 บาท

บริษัท ฯ ชี้แจง ไตรมาส 3/67 อัตรากำไรขั้นต้น และกำไรสุทธิ  สูงกว่าไตรมาสเดียวกันปีก่อน ถึง 18% และ 21% ตามลำดับ สอดคล้องกับแผนงานขยายธุรกิจ ที่บริษัทฯ ดําเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

ส่วน 9 เดือน /67 รายได้และกำไรสุทธิ  สูงกว่าช่วงเดียวกันปี 2566 ถึง 11% และ 22% ตามลำดับ โดยรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทฯ มาจากสัญญาการให้บริการระยาว ที่ทําอัตราค่าบริการไว้ค่อนข้างชัดเจน ดังนั้นความ เสี่ยงที่อาจเกิดจากการผันผวนของรายได้ในอนาคตจึงน้อยมาก

ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ที่ย่อตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า  เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่ยอมสละรายได้ระยะสั้น เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาวที่แน่นอนและมั่นคงเพิ่มขึ้น สาเหตุหลัก
มาจากการดําเนินการตามแผนกลยุทธ์ดังต่อไปนี้

กลยุทธ์ที่ 1 การนําเรือ Aframax ซึ่งเหลืออายุการใช้งานเพียง 1 ปี เข้าอู่แห้งตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/2567 เพื่อซ่อมใหญ่และ
ปรับเปลี่ยนให้เป็นเรือกักเก็บปิโตรเลียมเพื่อรอการขนถ่าย (Floating Storage and Offloading Vessel “FSO”) โดยเรือ FSO ลํานี้จะเริ่มให้บริการลูกค้าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 ภายใต้สัญญา Bareboat Contract ระยะยาว 5+5 ปีโดยที่ผู้เช่าจะเป็น ้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงเองทั้งหมด ซึ่งจะทําให้บริษัทฯ มีรายได้ที่แน่นอนจากเรือลํานี้ต่อไปอีกถึง 10 ปี โดยไม่มีความเสี่ยง
จากการผันผวนของราคาเชื้อเพลิง

กลยุทธ์ 2 การเปลี่ยนเรือ VLCC ให้บริการแก่ บมจ.ไทยออยล์ 1 ลํา ตามแผนงานที่ตกลงไว้กับ บริษัทไทยออยล์ และ
เนื่องจากเรือ VLCC ลําใหม่ มีประสิทธิภาพและอัตราการใช้พลังงานดีกว่าลําเก่า บริษัท ไทยออยล์ จึงพอใจที่จะคืนเรือลําเก่าและรอเรือลําใหม่ ซึ่งจะใช้เวลาเพิ่มขึ้น 23 วัน โดยช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะไม่ได้รับค่าบริการ แต่ตามเงื่อนไขสัญญาเดิมที่มีอยู่กับไทยออยล์ จะขยายระยะเวลาให้บริการของเรือลํานี้ต่อไปอีก 23 วันเช่นกัน บริษัทฯ จึงสามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า โดยที่ยังคงได้รับค่าบริการเต็มตามสัญญา