OSP กำไรดำเนินงาน Q3/67 โต 20% เร่งออกสินค้าใหม่ดันรายได้เพิ่ม 5%

HoonSmart.com>>โอสถสภา รายงานกำไร ไตรมาส 3 ปี’67 เพิ่มขึ้น 20% แตะ 672 ล้าน เดินหน้าออกสินค้าใหม่ จัดกิจกรรมการตลาด ดันรายได้ปี’67 โตไม่ต่ำกว่า 5%

น.ส.รติพร ราษฎร์เจริญ Group CFO บริษัท โอสถสภา (OSP) เปิดเผยว่า ไตรมาส 3 ปี 2567 มีรายได้จากการขาย 6,043 ล้านบาท ลดลง 3.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 17.7% จากไตรมาสก่อน ผลจากปัจจัยฤดูกาลโลว์ซีซั่น และน้ำท่วมในภาคเหนือและอีสาน ซึ่งกระทบต่อยอดขายกลุ่มเครื่องดื่มทั้งในและต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มเครื่องดื่มต่างประเทศเติบโต 22.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายที่แข็งแกร่งในเมียนมาร์และลาว

ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลยังเติบโตต่อเนื่อง 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการออกสินค้านวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคและขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่

บริษัทฯบันทึกผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3/2567 จำนวน 1,033 ล้านบาท จากการตัดจำหน่ายหนี้สูญและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายเงินลงทุนใน MGE Group ซึ่งเป็นธุรกิจผลิตขวดแก้วในเมียนมาร์ รวมถึงการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน

อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว บริษัทฯ ยังคงมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ (Core Business) 672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน โดยมาจากการปรับตัวที่ดีในอัตรากำไรขั้นต้นที่ 36.1% จากการลดลงของต้นทุนวัตถุดิบและพลังงาน รวมถึงการบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายได้อย่างเหมาะสม

สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้จากการขาย 20,648 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ผลกำไรสุทธิลดลง 45.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 1,071 ล้านบาท หากไม่รวมผลขาดทุนสุทธิจากการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ 1,352 ล้านบาท จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ (Core Business) ที่ 2,423 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ เช่น แบรนด์ “เบบี้ มายด์ แอนด์ บียอนด์” ที่ใช้พรีไบโอติกเพื่อสุขภาพ และการออกสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ “ทเวลฟ์พลัส” และ “เอ็กซิท” ที่ช่วยเสริมการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ

ด้านแบรนด์ “ซี-วิท” เปิดตัว “C-Vitt วิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม” เพิ่มวิตามินซีเป็น 1,000 มก. ต่อขวด พร้อมรสชาติใหม่ “เสาวรส” ที่มีรสชาติอร่อย หอม เปรี้ยวอมหวาน ตอบรับความต้องการของคนรุ่นใหม่

นอกจากนี้ยังเปิดตัว “เปปทีน กู๊ดไนท์” เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการผ่อนคลายและนอนหลับที่ดี โดยปีนี้ เครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ครองอันดับหนึ่งในตลาด ด้วยส่วนแบ่งตลาด 44.8% โดยเครื่องดื่ม “เปปทีน” มีส่วนแบ่ง 5.5% เพิ่มขึ้น 1.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเครื่องดื่ม “ซี-วิท” ครองส่วนแบ่งสูงสุด 74.0% ในกลุ่มวิตามินซี เพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

กลยุทธ์ไตรมาส 4 มุ่งขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจหลัก โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล หลังประสบความสำเร็จจากกลยุทธ์ “ไอดอลมาร์เก็ตติ้ง” ด้วยพรีเซนเตอร์ “พี่จอง-คัลแลน”

ล่าสุด “มิโซซ่า” ตอบรับกระแสแฟนคลับด้วยกระป๋องลิมิเต็ดเอดิชั่นลาย “พี่จอง-คัลแลน” พร้อมจับมือกับอินฟลูเอนเซอร์สุดฮอต “น้องเนย Butterbear” เป็นพรีเซนเตอร์ของ “เบบี้มายด์” และ “คาลพิส แลคโตะ” โดยเริ่มทยอยแคมเปญพิเศษเพื่อสร้างการรับรู้และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์จนถึงสิ้นปี

ทั้งนี้ คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2567 จะเติบโตได้ดีจากการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้นที่มาจากการเพิ่มปริมาณการผลิตและการเติบโตของธุรกิจต่างประเทศ รวมถึงการฟื้นตัวของการจับจ่ายในประเทศหลังน้ำท่วมคลี่คลาย

บริษัทฯ ยังคงมุ่งพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมจัดกิจกรรมการตลาดที่กระตุ้นความสนใจในช่วงปลายปี โดยตั้งเป้าการเติบโตรายได้ไม่ต่ำกว่า 5% จากปีก่อน พร้อมบริหารต้นทุนและมุ่งดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับผู้บริโภคและผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า