WHAUP โชว์งบ Q3 กำไรปกติลด 42% คาด Q4 ธุรกิจน้ำ-ไฟโตดีมีลูกค้าใหม่

HoonSmart.com>>ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ฯ เปิดงบ Q3/67 มีรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ 1,048 ล้านบาท กำไรปกติ 275 ล้านบาท ลดลง 42% เตรียมปันผล 0.060 บาท

บริษัทดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ หรือ WHAUP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 มีรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ 1,048 ล้านบาท ทำให้กำไรปกติอยู่ที่ 275 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 42% และมีกำไรสุทธิซึ่งรวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 81 ล้านบาทลดลง 84% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  

สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ 3,053 ล้านบาท และกำไรปกติ 957 ล้านบาท ลดลง 15% ขณะที่กำไรสุทธิรวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง 29% เหลือ 883 ล้านบาท โดยรายได้จากธุรกิจน้ำและไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ และจากการลงทุนในธุรกิจน้ำที่เวียดนามยังคงเติบโตดี แต่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่สูงในโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ CEO ของ WHAUP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3/2567 ยังคงแข็งแกร่ง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีปริมาณยอดขายน้ำรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศ 126 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโต 8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม (Value-added product) ที่มีการเติบโตขึ้นจากความต้องการน้ำของลูกค้าใหม่ที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์

ธุรกิจน้ำในต่างประเทศของ WHAUP โดยเฉพาะในโครงการ Doung River ที่เวียดนาม ยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากการขยายพื้นที่บริการ ซึ่งเพิ่มความต้องการใช้น้ำจากลูกค้าเดิมและใหม่ ทำให้บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไร 72 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกปี 2567 เทียบกับส่วนแบ่งขาดทุน 2 ล้านบาทในปีที่แล้ว

ด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้า มีรายได้จากสัญญา Private PPA ในธุรกิจ Solar Rooftop จำนวน 296 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน และได้ลงนามในสัญญาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่ม 24 สัญญา รวมกำลังการผลิตสะสม 269 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจากโรงไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ราว 944 เมกะวัตต์ ซึ่งแบ่งเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ดำเนินการแล้วจำนวน 697 เมกะวัตต์ และที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจำนวน 247 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ยังได้เปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จำนวน 38 ตู้ ตามแผนการลงทุนใน Green Logistics ของ WHA Group.

ในส่วนของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า ในไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรปกติจำนวน 218 ล้านบาท ลดลง 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 2567 มีส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้า จำนวน 685 ล้านบาท ลดลง 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรปกติจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ที่ลดลงจากการบันทึกต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ยังอยู่ในระดับสูง และการแข็งค่าของเงินบาทซึ่งทำให้ได้รับค่า energy payment ลดลง แม้ว่าบริษัทฯ จะมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรปกติจากกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP เพิ่มขึ้น จากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อัตรากำไรในส่วนของไฟฟ้าที่จำหน่ายให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น

สำหรับ ไตรมาส 4/2567 คาดว่าธุรกิจน้ำและไฟฟ้าของ WHAUP จะเติบโตต่อเนื่องจากความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าใหม่ เช่น โครงการซื้อขายน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูงกับ PTTGC และการขยายตัวของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม WHA โดยเฉพาะกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ที่ต้องการน้ำและไฟฟ้าจำนวนมากในอนาคต โดยเฉพาะพลังงานสะอาด บริษัทฯ จึงเตรียมเดินหน้าลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงานสะอาด

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.060 บาท พร้อมทั้งได้รับการคงอันดับเครดิตที่ “A-” จากทริสเรทติ้ง โดยมีแนวโน้ม “คงที่” สะท้อนความแข็งแกร่งทางการเงินและการเติบโตที่ต่อเนื่องในธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม.