BH กำไรทรงตัว 1,955 ลบ. Q3/67 รายได้ผู้ป่วยต่างชาติ-ไทยลดลง

HoonSmart.com>> “โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์” (BH) กำไรสุทธิไตรมาส 3/67 ที่ 1,955 ล้านบาท ทรงตัวจากงวดปีก่อน รายได้จากกิจการโรงพยาบาล 6,384 ล้านบาท ลดลง 5% กลุ่มผู้ป่วยต่างชาติและชาวไทยลด ฉุดรายได้รวมลดลง 4.9% ส่วนงวด 9 เดือนปี 67 กำไร 5,872 ล้านบาท เติบโต 11.1% รายได้รวม 19,343 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% ต้นทุนลดลง

บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2567 กำไรสุทธิ 1,955.14 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.46 บาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,954.43 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.46 บาท

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2567 กำไรสุทธิ 5,871.76 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 7.39 บาท เพิ่มขึ้น 11.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 5,285.62 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 6.65 บาท

บริษัทฯ มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 6,384 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2567 ลดลง 5.0% จาก 6,720 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2566 โดยหลักเป็นผลจากการลดลงของรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติและผู้ป่วยชาวไทย 6.8% และ 1.4% ตามลำดับ เป็นผลให้รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทย คิดเป็นสัดส่วน 34.3% จากทั้งหมด ในขณะที่รายได้จากกล่มผู้ป่วยต่างประเทศคิดเป็น 65.7% ในไตรมาส 3 ปี 2567 เทียบกับ 33.1% และ 66.9% ตามลำดับ ในไตรมาส 3 ปี 2566

บริษัทฯ มีรายได้รวมของไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 6,447 ล้านบาท ลดลง 4.9% จาก 6,775 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2566 ค่าใช้จ่ายในการขาย (รวมค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย) มีจํานวน 185 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2567 เพิ่มขึ้น 4.3% จาก 177 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2566 โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้น 11 ล้านบาท

สําหรับ 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 19,343 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% จาก 19,010 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิเป็น 30.4% เทียบกับ 27.8% ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลจํานวน 19,182 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.0% จาก 18,799 ล้านบาทจากงวดปี 9 เดือนปี 2566 โดยหลักเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มผู้ปาวยชาวไทยและต่างชาติ 3% และ 1.5% ตามลำดับ เป็นผลให้รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทยคิดเป็นสัดส่วน 34.0% จากทั้งหมด ในขณะที่รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติคิดเป็น 66.0% เทียบกับ 33.6% และ 66.4% ตามลําดับ ใน 9 เดือนแรกของปี 2566

ด้านต้นทุนกิจการโรงพยาบาล (รวมค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย) จํานวน 9,244 ล้านบาท ลดลง 3.3%

———————————————————————————————————————————————————–