CGSI คาดหุ้นแกว่งขึ้น-ลุ้นทดสอบ 1,500 จุด ต่างชาติกลับมาซื้อหนุน

HoonSmart.com>>บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาด SET Index แกว่งขึ้นแถว 1,475-1,490 และลุ้นทดสอบ 1,500 จุด Sentiment บวกตามตลาดสหรัฐ และต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยช่วยหนุน รวมถึงคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีน

บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาดว่า SET Index จะแกว่งตัวขึ้นที่บริเวณ 1,475-1,490 จุด และ ลุ้นทดสอบ 1,500 จุด จาก sentiment บวกตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ และ แรงสนับสนุนจากเม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติที่กลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย รวมถึงความคาดหวังของตลาดต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีนในการประชุม NPC วันที่ 4-8 พ.ย.

วันนี้ จับตารายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อไทยเดือนต.ค. ที่ตลาดคาดว่า CPI จะขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 0.94% yoy (เดือนก.ย. +0.61%) และ Core CPI ขยายตัวที่ระดับ 0.80% yoy (vs. เดือนก.ย. +0.77%) และ การประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออกจาก MSCI Rebalance

หุ้นแนะนำ SPRC เชื่อว่าจะได้ประโยชน์จาก crack spread ที่เพิ่มขึ้นของ HSFO และแนฟทา จึงคาดว่าค่าการกลั่นตลาดของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในเดือนต.ค. 2567 เทียบกับ 3.86 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาส 3 ปี 2567 (Take profit : 7.20 / Stop loss : 6.50)

CRC เชื่อว่าจะเป็นหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์หากนางกมลา แฮร์ริส ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดย CRC เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในกลุ่มค้าปลีกสำหรับปี FY25 เพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนอกจากจะทำให้ความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยลดดอกเบี้ยจ่ายของ CRC อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีผลประกอบการแข็งแกร่ง (Take profit : 34.00 / Stop loss : 30.75)

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นมาปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง ตอบรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาสดใส โดยดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบัน ISM ขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ส.ค. 2565 สู่ระดับ 56.0 สูงกว่าตลาดคาดว่าจะขยายตัวลดลงที่ 53.8 และ ตัวเลขดุลการค้าเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.44 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าตลาดคาดที่ 8.41 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันนี้ เนื่องจากนโยบายต่างๆ จะส่งผลต่อสภาพการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมโลก ซึ่งตลอดเวลานั้นทั้งคู่มีคะแนนจากผลสำรวจที่สูสีกันจนไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้จึงทำให้การประกาศผลการเลือกตั้งที่แน่นอนอาจต้องใช้เวลาหลายวัน โดยล่าสุด ผลการนับคะแนนใน 2 รัฐที่เสร็จสิ้นแล้ว ได้แก่ รัฐเคนทักกี (8 เสียง) และ รัฐอินดีแอนา (11 เสียง) พบว่า ทรัมป์ มีคะแนนนำ แฮร์ริส ที่ 19-3 เสียง โดยจำนวนเสียงที่ต้องการคือ 270 เสียง เพื่อชนะจากทั้งหมด 538 เสียง

จับตาการประชุมนโยบายทางการเงินของ Fed ในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.) ที่ตลาดให้น้ำหนัก 100% ที่ เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 4.75%

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ติดตามรายงานตัวเลขสินค้าคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ คืนนี้ และ การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BoE ในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.)